“ภูมิธรรม” ควง “อุ๊งอิ๊ง” จัดงานติดปีกผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อช่วยขับเคลื่อนซอฟต์เพาเวอร์ไทยสู่ตลาดโลก เผยรัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้ 20 ล้านครัวเรือน ทำเงินเข้าประเทศ 4 ล้านล้านบาทต่อปี พร้อมโชว์ผลงานของพาณิชย์ล่าสุด ดันอาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ขายต่างประเทศ ทำเงินกว่า 7,900 ล้านบาท “แพทองธาร” ย้ำหากทำสำเร็จจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ช่วยสร้างงาน เพิ่มรายได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power X ทรัพย์สินทางปัญญา” โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เข้าร่วม ว่า การจัดงานครั้งนี้จัดโดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงหน่วยงานพันธมิตร เพื่อผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ไทยแบบเต็มสูบ ด้วยการสร้างความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยไปตลาดต่างประเทศ
“ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมาก ทั้งปัจจัยทางสังคม โรคระบาด ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ประเทศไทยต้องปรับรูปแบบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทรัพย์สินทางปัญญาถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญ และสามารถใช้ยกระดับการค้าระหว่างประเทศของไทยในเวทีโลก ให้ประเทศสามารถก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูงในอนาคต”
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการเปลี่ยนให้ประเทศไทยเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ด้านวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างยั่งยืน โดยออกนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์เพาเวอร์ หรือ One Family One Soft Power (OFOS) สอดแทรกวัฒนธรรมไทยไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลก สร้างการยอมรับวัฒนธรรมไทย ที่มีพลังสูง เปลี่ยนทักษะพื้นบ้าน เป็นทักษะสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตขึ้น
“รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายสร้างงานให้คนไทย 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขา ประกอบด้วย ท่องเที่ยว เทศกาล กีฬา อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ หนังสือ เกม ออกแบบและแฟชั่น โดยจะส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีเป้าหมายในกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ มวยไทย การท่องเที่ยว หนังสือ และเกม”
สำหรับการผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้นำผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารเพื่อส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ไทยด้านอาหาร ผ่านครัวไทยสู่โลก ที่งาน Anuga เยอรมนี สร้างมูลค่ากว่า 5,300 ล้านบาท และงานแสดงสินค้ากลุ่มดิจิทัลคอนเทนต์ งาน ASIAN Contents & Film Market เกาหลีใต้ และงาน TIFFCOM (ทิฟคอม) ญี่ปุ่น สร้างรายได้รวมกว่า 2,600 ล้านบาท
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า นโยบายซอฟต์เพาเวอร์จะเป็นนโยบายหลักผลักดันเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น ช่วยให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ ทุกคนพยายามนิยามคำว่าซอฟต์เพาเวอร์ คิดว่าการนิยามคำว่าซอฟต์เพาเวอร์เป็นสิ่งที่สำคัญน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลกำลังทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น โดยจะผลักดันอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ เน้นเศรษฐกิจมากขึ้น เป็นพลังอำนาจที่เมื่อเกิดขึ้นกับวัฒนธรรมใด มีคนคล้อยตามโดยไม่ต้องบีบบังคับ จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจมากมายต่อวัฒนธรรมและประเทศเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยสร้างงานและเพิ่มรายได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น สินค้า OTOP ต้องมีการสนับสนุนสินค้าไทยอย่างเป็นระบบ ครัวไทยสู่โลก ต้องสร้างเชฟไทยส่งออกไปต่างประเทศ เพื่อให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก การสนับสนุนแฟชั่น ต้องผลักดันกรุงเทพฯ เมืองแฟชั่น จุดพลุให้ทั่วโลกมองเห็นศักยภาพแฟชั่นไทย ซึ่งทั้งหมดต้องทำทั้งระบบต่อเนื่องในระยะยาว ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยรัฐบาลสนับสนุนให้เอกชนที่รู้จริงนำซอฟต์เพาเวอร์ไปทำให้เป็นจริง