บางจากฯ ตั้งเป้าปี 67 โกยยอดขายกว่า 5 แสนล้านบาท จากปีนี้คาดอยู่ที่ 3.6 แสนล้านบาท เหตุรับรู้รายได้จากเอสโซ่เต็มปี ดันกำลังการกลั่นและยอดขายน้ำมันพุ่ง ส่วนกลุ่มธุรกิจอื่นๆเติบโตต่อเนื่องเช่นกัน อัดงบลงทุนปีหน้า 5 หมื่นล้านบาท มั่นใจปี 2573 บางจากมี EBITDA 1 แสนล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 เติบโตกว่า 5 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะมียอดขาย 3.6 แสนล้านบาท เนื่องมาจากการรับรู้รายได้เอสโซ่หลังจากเข้าถือหุ้นใหญ่เต็มปี ส่งผลให้มีกำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นในปีหน้าเป็น 266,000 บาร์เรล/วันจากปีนี้ที่ 155,000 บาร์เรล/วัน รวมทั้งมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้จากค้าปลีกน้ำมันเติบโตขึ้นด้วย ขณะเดียวกันปีหน้าในกลุ่มธุรกิจอื่นๆก็เติบโตขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในปี 2567-2573 บางจากจะใช้เงินลงทุนขับเคลื่อนธุรกิจระดับ 150,000 ล้านบาท โดยปีหน้าจะใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 50,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เน้นลงทุนในธุรกิจพลังงานสีเขียวเป็นหลัก ใช้เงินลงทุนราว 14,000 ล้านบาท ซึ่ง บมจ.บีซีพีจี (BCPG) ตั้งเป้าหมายจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 7,770 กิกะวัตต์-ชั่วโมง (Gwh) ในปี 2567 จากปีนี้อยู่ที่ 3,700 กิกะวัตต์-ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม บางจากยังมั่นใจว่าในปี 2573 บริษัทจะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) แตะระดับ 100,000 ล้านบาทตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ จากปัจจุบันทำได้แล้ว 40,000-50,000 ล้านบาทในปีนี้
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า ในปี 2566 ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของบางจากฯ ทุกกลุ่มธุรกิจมีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยบางจากฯ ได้มีการวางแผนธุรกิจและเป้าหมายสำคัญในปี 2567 ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ดังนี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน โรงกลั่นน้ำมันมาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง ตั้งเป้าหมายอัตราการกลั่นน้ำมันดิบ (รวม 266,000 บาร์เรลต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 72% จาก 155,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2566 โดยโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนง มีต้นทุนการกลั่นต่ำเพียง 1.3 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะเดียวกัน จะนำความสำเร็จจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงมาใช้กับโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ สร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันและการผสานประโยชน์ร่วมกัน โดยตั้งเป้าอัตราการกลั่นน้ำมันดิบ ทำให้มั่นใจว่าปีหน้าโรงกลั่นบางจาก ศรีราชากลั่นอยู่ที่ 155,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่กลุ่มธุรกิจการตลาด มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อให้สถานีบริการบางจากเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้บริการทุกช่วงวัย ตั้งเป้าขยายเครือข่ายสถานีบริการจาก 2,221 สถานี ณ สิ้นปี 2566 เป็น 2,261 สถานีในปีหน้า และมากกว่า 2,500 สถานีในปี 2573
ส่วนบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ยังมุ่งให้ความสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่ง และความเติบโตของธุรกิจหลัก (Core Business) คือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ด้านบริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) (BBGI) ตั้งเป้าหมายปริมาณจำหน่ายปีหน้าเพิ่มขึ้น 40% จากปี 2566 เป็น 560 ล้านลิตร และรุกธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง โดยร่วมกับบางจากฯ ในการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) และโรงงานเทคโนโลยีชีวภาพขั้นสูงเชิงพาณิชย์ที่ร่วมทุนกับ Fermbox Bio จากสหรัฐอเมริกา โดยในระยะแรกจะผลิตเอนไซม์ ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 200,000 ลิตรในปี 2567 และเพิ่มเป็นมากกว่า 1 ล้านลิตรในปี 2570
นอกจากนี้ ธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) OKEA ASA ตั้งเป้าหมายเติบโต 74% มีกำลังการผลิตปิโตรเลียมเพิ่มขึ้นเป็น 40,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2567 และมีเป้าหมายกำลังการผลิตมากกว่า 100,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันภายในปี 2573 โดยยังแสวงหาการลงทุน E&P ทั้งในนอร์เวย์และในแหล่งใหม่ๆ ในประเทศที่มีศักยภาพ