xs
xsm
sm
md
lg

เปิด 4 เทรนด์ ท่องเที่ยวสุดฮอต เน้น “ME” ไม่เน้น “MASS”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด – ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ท่องเที่ยวคึกคัก “แรบบิท แคร์” เปิดเทรนด์แรง การท่องเที่ยว 4 รูปแบบ สุดฮอต รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่เน้น “ME” ไม่เน้น “MASS” ภายใต้คอนเซ็ปต์ทริปตามใจฉัน หรือ “MEtinerary” (Me + Itinerary)
ช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ แน่นอนว่า กิจกรรมหนึ่งที่สำคัญและคนส่วนใหญ่ทำกันก็คือ การท่องเที่ยว พักผ่อน ไม่ว่าจะเที่ยวในประเทศไทยหรือไปต่างประเทศก็ตาม
 
สำหรับใครที่ยังคงกำลังมองหาไอเดียการท่องเที่ยวแต่ยังไม่มีเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ชัดเจน ติดตาม “แรบบิท แคร์” เพื่อมาทำความรู้จักกับ 4 เทรนด์ท่องเที่ยวสุดปัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ทริปตามใจฉัน หรือ “MEtinerary” (Me + Itinerary) คำศัพท์ใหม่ที่พจนานุกรมยังไม่ทันได้บรรจุ โดยทั้ง 4 รูปแบบจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูพร้อมกันได้เลย


1. Self-Care - รีชาร์จพลังบวกด้วยเทรนด์การท่องเที่ยวแบบแคร์สุขภาพกายและใจ
จากรายงาน 2023 Global Travel Trends ของ AMEX พบว่า กว่า 72% ของกลุ่มตัวอย่าง เริ่มหันมานิยมการท่องเที่ยวที่ดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของตัวเองมากขึ้น เพียงแค่ได้ออกไปพักผ่อน ปล่อยจอยไปกับธรรมชาติที่เรียบง่าย ได้ฟังเสียงคลื่นทะเล สัมผัสความงดงามของท้องฟ้ายามเย็นเมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า และผ่อนคลายร่างกายด้วยการทำทรีทเมนต์ หรือเข้าสปา

สำหรับใครที่อยู่ในช่วงวัยทำงานซึ่งอาจมีภาวะสะสมความเครียดได้แบบชนิดที่ไม่ทันตั้งตัว เช่น จากการที่ต้องทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน (Multitasking) ถึงเวลาแล้วที่จะหันมาให้รางวัลตัวเองด้วยการรีชาร์ตพลังกายและใจด้วยเทรนด์การท่องเที่ยวแบบ “Self - Care” ที่ไม่เพียงจะได้รับพลังบวกจากความสงบของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ชัตดาวน์หลีกหนีจากสภาวะที่เราเสียสมาธิจากการถูกกระตุ้นโดยสิ่งเร้าต่าง ๆ ทางสังคมมากเกินไป ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ถอยออกห่างจากความวุ่นวายในเมืองมาลองทำโซเชียล ดีท็อกซ์ (Social Detox) และลดการใช้เวลาหน้าจอเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและร่างกายให้พร้อมกลับมาทำงานได้อย่างอย่างเต็มที่อีกครั้ง


2. Lesser-Known Vacation – ปล่อยใจหมุนไปตามจังหวะเข็มทิศพร้อมเปิดใจลองออกค้นหาจุดเช็คอินใหม่
สำหรับใครที่เริ่มรู้สึกถึงความจำเจกับ Tourist attraction เดิม ๆ อาจถูกใจเทรนด์การท่องเที่ยวรูปแบบ “Lesser-Known Vacation” ซึ่งนั่นก็คือการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ท่องโลกกว้าง ลองก้าวเท้าออกจากกรอบการท่องเที่ยวไปตามเส้นทางยอดนิยม เปลี่ยนมาเป็นการได้ออกไปท่องเที่ยวเพื่อค้นพบในสถานที่ที่อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักของคนหมู่มากมาก่อน เปิดโลกการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ให้ประสบการณ์อันน่าจดจำแบบไม่ซ้ำใคร

จากข้อมูลการสำรวจพบว่ากว่า 71% มีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และอีก 69% ของกลุ่มสำรวจมีความภาคภูมิใจที่ได้ค้นพบโลเคชันท่องเที่ยวใหม่ๆ ก่อนเป็นกระแส


3. Local Gem Hunting – ออกตามล่าหาประสบการณ์ใหม่กับเทรนด์การท่องเที่ยวเพื่อนักสำรวจ
อีกหนึ่งวิธีสร้างสีสันให้กับทริปคือการออกหาพิกัดลับ ที่ถูกซ่อนอยู่ในวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น สนุกและตื่นเต้นไปกับการออกไปท่องเที่ยว กิน ลองใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่น ค้นพบคอมมิวนิตี้ใหม่ ๆ ในพิกัดสถานที่ต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่าเป็น “Hidden Gems” สุดแรร์ที่แฝงด้วยเสน่ห์น่าค้นหา เพลิดเพลินกับจุดชมวิวอันน่าทึ่ง ที่ต้องอาศัยความท้าทายในการเดินทางเพื่อให้ได้ขึ้นไปถึงจุดนั้น ๆ และแหล่งช้อปปิ้ง-สตรีทไนท์สุดฮิปที่อาจเป็นที่รู้จักกันเฉพาะแวดวงของคนในพื้นที่


นอกจากนี้ยังรวมถึงบรรดาพิกัดร้านดังที่มีแต่คนในพื้นที่เป็นลูกค้าประจำ อาหารเลิศรสไม่ซ้ำใคร จากการสำรวจพบว่าประชาชนส่วนมากมีเป้าหมายการเดินทางเพียงเพื่อให้ได้ไปสัมผัสวัฒนธรรมอาหารดั้งเดิมและลิ้มลองรสชาติอาหารพื้นเมืองขนานแท้ และยังมีบางที่ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวกับไกด์ท้องถิ่น หรือเข้าร่วมคลาสสอนทำอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากเชฟประเทศนั้น ๆ อีกด้วย


4. Lifestyle – เติมเต็มความต้องการด้วยกิจกรรมสุดโปรดตามไลฟ์สไตล์
การท่องเที่ยวสายไลฟ์สไตล์ เทรนด์การท่องเที่ยวนี้จะโฟกัสไปที่กิจกรรมความชอบความสนใจเฉพาะด้าน และงานอดิเรกส่วนตัวที่มีความเป็นปัจเจกนิยมสูง ไม่ว่าจะเป็นด้านความบันเทิงกับการได้บินลัดฟ้าเพื่อออกไประเบิดความมันส์ในคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดในดวงใจ การได้ไปชมหรือเข้าร่วมแข่งกีฬาแมตช์สำคัญต่าง ๆ การได้ไปเสพงานศิลป์ของศิลปินที่ชอบ ณ อาร์ตแกลลอรี่และพิพิธภัณฑ์เลื่องชื่อจากทั่วทุกมุมโลกหรือสายมูเตลูที่นิยมการไปกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตต้อนรับปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการงาน สุขภาพ ความรัก และการเงิน เป็นต้น


แต่ถึงแม้ว่าทั้ง 4 รูปแบบการเดินทางจะเป็นสิ่งที่นักเดินทางได้วางแผนและเตรียมตัวมาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในแผนของใครหลาย ๆ คน และสิ่งเหล่านี้ก็มีโอกาสเกิดกับนักท่องเที่ยวโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน

รู้หรือไม่ สาเหตุ Top 5 ของการแจ้งเคลมประกันการเดินทางต่างประเทศ มีสถิติการเคลมสูงสุดด้วยเหตุผล 5 อันดับแรก ได้แก่ กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล 33% ความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง 23% การล่าช้าของเที่ยวบิน 19% การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง 14% และการพลาดการต่อเที่ยวบิน 5% อีกทั้งยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ ที่ต้องระวัง เช่น การยกเลิกหรือการเลื่อนการเดินทาง การลดจำนวนวันเดินทาง ความเสียหายสำหรับรถเช่า ความสูญเสียของทรัพย์สินส่วนตัว เงินสูญหาย รวมถึงการถูกปฏิเสธเข้าประเทศ (*อ้างอิงจากรายงานการเคลมประกันของลูกค้าแรบบิท แคร์ ที่ซื้อประกันภัยการเดินทางของ MSIG เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566)

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างแผนรองรับด้วยการมีแผนประกันการเดินทางที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยทำให้ทุกคนหมดกังวลกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างเดินทาง แถมยังได้รับความคุ้มค่าด้วยการคุ้มครองที่ครบในทุกมิติ ให้สามารถออกไปเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวล

ทั้งนี้จากสถิติยอดการซื้อประกันภัยการเดินทางผ่าน แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ในปัจจุบันพบว่า ยอดขายกรมธรรม์ประกันท่องเที่ยวมีการเติบโตพุ่งถึง 2 เท่าตลอดทั้งช่วงโลว์ซีซั่นและไฮซีซั่นจากปีที่ผ่านมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมามี 5 ประเทศยอดนิยมที่คนไปเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น ประเทศในกลุ่มเชงเก้น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน


แต่ถึงแม้ว่าทั้ง 4 รูปแบบการเดินทางจะเป็นสิ่งที่นักเดินทางได้วางแผนและเตรียมตัวมาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในแผนของใครหลาย ๆ คน และสิ่งเหล่านี้ก็มีโอกาสเกิดกับนักท่องเที่ยวโดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน

รู้หรือไม่ สาเหตุ Top 5 ของการแจ้งเคลมประกันการเดินทางต่างประเทศ มีสถิติการเคลมสูงสุดด้วยเหตุผล 5 อันดับแรก ได้แก่ กรณีเบิกค่ารักษาพยาบาล 33% ความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง 23% การล่าช้าของเที่ยวบิน 19% การล่าช้าของกระเป๋าเดินทาง 14% และการพลาดการต่อเที่ยวบิน 5% อีกทั้งยังมีเหตุการณ์อื่น ๆ ที่ต้องระวัง เช่น การยกเลิกหรือการเลื่อนการเดินทาง การลดจำนวนวันเดินทาง ความเสียหายสำหรับรถเช่า ความสูญเสียของทรัพย์สินส่วนตัว เงินสูญหาย รวมถึงการถูกปฏิเสธเข้าประเทศ (*อ้างอิงจากรายงานการเคลมประกันของลูกค้าแรบบิท แคร์ ที่ซื้อประกันภัยการเดินทางของ MSIG เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566)


แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างแผนรองรับด้วยการมีแผนประกันการเดินทางที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยทำให้ทุกคนหมดกังวลกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งที่ไม่คาดคิดระหว่างเดินทาง แถมยังได้รับความคุ้มค่าด้วยการคุ้มครองที่ครบในทุกมิติ ให้สามารถออกไปเที่ยวได้อย่างสบายใจไร้กังวล

ทั้งนี้จากสถิติยอดการซื้อประกันภัยการเดินทางผ่าน แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) ในปัจจุบันพบว่า ยอดขายกรมธรรม์ประกันท่องเที่ยวมีการเติบโตพุ่งถึง 2 เท่าตลอดทั้งช่วงโลว์ซีซั่นและไฮซีซั่นจากปีที่ผ่านมาอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งจากเดือนมกราคม - ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมามี 5 ประเทศยอดนิยมที่คนไปเที่ยวมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น ประเทศในกลุ่มเชงเก้น เกาหลีใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน


กำลังโหลดความคิดเห็น