ผู้จัดการรายวัน 360 -‘กลุ่มดุสิตธานี’ สยายปีกแบรนด์ ‘อาศัย’ (ASAI) สู่ประเทศมาเลเซีย เป็นครั้งแรก เซ็นสัญญารับบริหารโรงแรม ‘อาศัย กามูดา โคฟ’ พร้อมเปิดให้บริการปี 2569ชูจุดเด่นตั้งอยู่ในทำเลทองแห่งใหม่ของมาเลเซีย ห่างจากใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์เพียง 40 นาที
ดุสิตโฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ภายใต้กลุ่มดุสิตธานี หนึ่งในบริษัทพัฒนาโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ได้ลงนามข้อตกลงกับ “กามูดา แลนด์” (Gamuda Land) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศมาเลเซีย เพื่อบริหารการดำเนินงานของโรงแรม อาศัย กามูดา โคฟ (ASAI Gamuda Cove) นับเป็นโรงแรมในเครือดุสิตแห่งแรกในประเทศมาเลเซีย และเป็นการพัฒนาโรงแรมแห่งแรกของบริษัท Gamuda Land
มร. จิลล์ เครตัลเลช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โรงแรม “อาศัย กามูดา โคฟ” ซึ่งเป็นโรงแรมแบรนด์ “อาศัย” (ASAI) ภายใต้การบริหารของกลุ่มดุสิตธานี มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 1 ของปี 2569 โดยระหว่างนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนพัฒนาโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทองที่ใกล้ชิดธรรมชาติ อยู่ติดกับอุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำ Paya Indah Discovery ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 4,000 ไร่
โดยโครงการ Gamuda Cove ออกแบบการใช้งานของพื้นที่แต่ละส่วนได้เป็นอย่างดี มีทั้งอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งเปิดให้บริการแล้ว อาทิ สวนน้ำ SplashMania Waterpark และ Discovery Park เพื่อดึงดูดนักเดินทางทั้งในและต่างประเทศ โดย Gamuda Cove อยู่ห่างจากสนามบินกัวลาลัมเปอร์เพียงแค่ 20 นาทีโดยรถยนต์ และสามารถเดินทางไปยังใจกลางเมืองได้โดยใช้เวลาเพียง 40 นาที
“การได้รับความไว้วางใจจาก Gamuda Cove สำหรับการบริหารโรงแรมแห่งแรกในประเทศมาเลเซียนั้น ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เรามีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับ Gamuda Land เพื่อช่วยสร้างโรงแรมแห่งแรกของบริษัทให้เป็นจริง ตอบโจทย์วิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่มีร่วมกัน ด้วยทำเลที่ตั้งอันน่าทึ่งของ Gamuda Cove เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยขับเน้นเอกลักษณ์ของแบรนด์ “อาศัย” ให้ออกมาได้อย่างสมบูรณ์ และเรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเข้าพักอันน่าจดจำ ต้อนรับนักเดินทางทุกท่านที่พร้อมมาสัมผัสความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมที่หลากหลายในประเทศมาเลเซีย รวมถึงความอุดมสมบูรณ์ของอุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำ เรายังเชื่ออีกว่า การร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้จะเป็นการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ให้กับทั้งพันธมิตร ชุมชนโดยรอบโรงแรม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
สำหรับ โรงแรม “อาศัย กามูดา โคฟ” ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 280 ห้อง บริหารภายใต้ อาศัย โฮเท็ลส์ (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมแนวไลฟ์สไตล์ภายในเครือดุสิตฯ ที่โดดเด่นและทันสมัย มีพันธกิจสำคัญในการเชื่อมโยงนักเดินทางรุ่นใหม่เข้ากับประสบการณ์ที่แท้จริงในทุกชมชนท้องถิ่นทั่วโลก โดย “อาศัย กามูดา โคฟ” จะเป็นโรงแรมแห่งแรกที่ลงนามภายใต้โมเดลทางธุรกิจแบบ อาศัย ทรอปิคัล (ASAI Tropical) ซึ่งให้บรรยากาศการพักผ่อนสไตล์รีสอร์ทใกล้ชิดกับธรรมชาติ ต่างจาก อาศัย โฮเท็ลส์ แห่งอื่นที่เน้นความเป็นซิตี้โฮเท็ล โดย “อาศัย ทรอปิคัล” มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ และห้องอาหาร แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์การตกแต่งสไตล์มินิมัล
แม้จะดำเนินกิจการภายใต้โมเดล “อาศัย ทรอปิคัล” แต่โรงแรม “อาศัย กามูดา โคฟ” ยังคงมุ่งเน้นส่งเสริมการมีส่วนร่วมในเพื่อสร้างความหมายให้กับทุกการเข้าพัก พร้อมมาตรฐานเดียวกันกับโรงแรมอาศัยทั้งในประเทศไทย และในประเทศญี่ปุ่น ด้วยการให้บริการห้องพักที่ได้รับการออกแบบให้พื้นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้สูงสุด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ เตียงนอนคุณภาพเยี่ยม และฝักบัวอาบน้ำแรงดันสูง นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่เป็นสถานที่อเนกประสงค์ทั้งสำหรับการทำงาน พักผ่อนอิริยาบถ หรือทำกิจกรรมสุดสนุก พร้อมกันนี้ โรงแรมยังมีห้องรับประทานอาหารที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรสชาติของท้องถิ่น ความพิเศษของ “อาศัย กามูดา โคฟ” ยังรวมไปถึงสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้พูล พื้นที่จัดกิจกรรม และประเภทของห้องที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย รองรับได้ทุกความต้องการไม่เว้นแม้แต่ห้องขนาดใหญ่ที่เหมาะกับทั้งกลุ่มเพื่อนและครอบครัว
โรงแรม “อาศัย กามูดา โคฟ” ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของโครงการ Gamuda Cove ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่ได้รับการออกแบบอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อสร้างให้โรงแรมแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งกับชุมชน พร้อมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นไว้ในงานออกแบบ โดยผู้เข้าพักยังจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันเขียวชอุ่มของอุทยานพื้นที่ชุ่มน้ำที่กว้างกว่า 227 ไร่ เป็นที่อยู่ของพืชพรรณนานาชนิด และสามารถเข้าถึงได้โดยตรงจากโรงแรม
ขณะที่โครงการ Gamuda Cove ยังมีพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมที่ให้ความสำคัญไปพร้อมกับการพัฒนาโครงการนี้ โดยจะเปิดตัวระบบรถรางไฟฟ้า (E-Tram) แห่งแรกในประเทศมาเลเซีย เพื่อเชื่อมต่อการขนส่งผู้ใช้บริการไปยังจุดท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆ อาทิ Discovery Park และสวนน้ำ SplashMania รวมถึงจะเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งซึ่งสงวนไว้สำหรับการเดินท่องเที่ยวเท่านั้น เพื่อลดข้อจำกัดในการเข้าถึง และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยทุกกิจกรรมที่เกิดใน Gamuda Cove จะมีรากฐานมาจากการเคารพต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้นักเดินทางได้สัมผัสกับอัตลักษณ์เฉพาะตัว โดยตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชม 1 ล้านคนต่อปี
มร. ยูซอฟ ฉั่ว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของ Gamuda Land กล่าวว่า Gamuda Cove คือการพัฒนาเขตเมืองที่วางแผนมาเป็นอย่างดี พร้อมนำเสนอการท่องเที่ยวอันน่าตื่นเต้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งมาในรูปแบบของกิจกรรมผจญภัยและสวนน้ำ โดยภาพใหญ่ของโครงการนี้จะประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงโรงเรียน มหาวิทยาลัย ศูนย์การแพทย์ ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่คึกคัก และอาคารสำนักงานที่สามารถเดินทางไปยังเมืองใกล้เคียงได้สะดวกสบาย อาทิ ปุตราจายา ไซเบอร์จายา และกัวลาลัมเปอร์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้รวมงานกับกลุ่มดุสิตธานีซึ่งถือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ โดยช่วยกันเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ ในอาณาเขตแห่งนี้เข้าด้วยกัน ผสมผสานการใช้ชีวิต การทำงาน และความสนุกได้อย่างลงตัว เป็นที่รู้กันดีว่าแบรนด์ อาศัย ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในท้องถิ่น และสามารถตอบสนองความต้องการของนักเดินทางในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี เราหวังว่าจะได้สร้างความร่วมมืออย่างยั่งยืน และร่วมกันต้อนรับนักเดินทางทุกคนให้มาค้นพบกับความมหัศจรรย์ของ Gamuda Cove
ปัจจุบันกลุ่มดุสิตธานีดำเนินกิจการครอบคลุม 19 ประเทศ ประกอบด้วยโรงแรมทั้งหมด 56 แห่ง ภายใต้ ดุสิต โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท และมีวิลล่าระดับลักซ์ชูรีอีก 240 หลัง ภายใต้แบรนด์ อีลิท ฮาเวนส์ (Elite Havens) โดยยังมีโรงแรมอีกกว่า 60 แห่งที่กำลังพัฒนาโครงการอยู่ทั่วโลก
ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2491 ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ กลุ่มบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการบริการท่องเที่ยวและโรงแรม ดำเนินกิจการครอบคลุม 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท ธุรกิจการศึกษา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการต้อนรับ ธุรกิจหลักของกลุ่มได้แก่ ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทและวิลล่าหรู ภายใต้ 8 แบรนด์ (เดวาราณา-ดุสิต รีทรีตส์, ดุสิตธานี, ดุสิต สวีท, ดุสิต คอลเลคชั่น, ดุสิตดีทู, ดุสิตปริ๊นเซส, อาศัย, และ อีลิธฮาเวนส์) ในจุดหมายปลายทางชั้นนำกว่า 300 แห่งใน 19 ประเทศทั่วโลก และธุรกิจการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย โรงเรียนสอนประกอบการทำอาหารและวิทยาลัยการโรงแรมในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีบริษัทเคเทอริ่งที่บริการอาหารให้กับโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอาหาร ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้บริการอื่นๆ เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่บริษัทเพิ่งเริ่มกระจายการลงทุนไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตามแผนกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ที่ประกอบด้วย 3 ด้านได้แก่ การสร้างความสมดุล การเติบโต และการกระจายความเสี่ยง