ข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทานที่จำหน่ายอยู่ตามร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้าต่างๆ กว่าจะมาถึงมือผู้บริโภคได้ต้องผ่านกระบวนการผลิตที่ควบคุมคุณภาพ และความปลอดภัยทางอาหารอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ การปรุง การจัดเก็บ และขนส่ง ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกกระบวนการ
สำหรับกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ถูกออกแบบให้อาหารคงคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผลิตในโรงงานระบบปิดที่ใช้เครื่องจักรทันสมัยแบบอัตโนมัติ และกึ่งอัตโนมัติ รวมทั้งหุ่นยนต์ช่วยผลิตเพื่อลดโอกาสการปนเปื้อน ภายใต้ระบบการจัดการ Hygiene ที่มั่นใจได้ว่าสะอาด ปลอดภัย ทุกขั้นตอน
ขณะที่วัตถุดิบที่ไม่ปนเปื้อน จะต้องคัดสรรและตรวจสอบก่อนนำมาประกอบอาหาร ต้องปลอดภัย สด สะอาด มาจากสถานที่ผลิตที่มีมาตรฐาน และสอบกลับถึงแหล่งที่มาได้ 100%
ท้ายสุด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ปลอดภัยก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์สัมผัสอาหารและฉลาก ต้องถูกกฎหมาย ปลอดภัย และปิดผนึกสมบูรณ์ เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าตั้งแต่กระบวนการผลิตถึงมือผู้บริโภค
แต่ก็ยังมีกระแสข่าวในโลกออนไลน์หลังมีผู้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมอ้างว่า “เจอหนอนดิ้นได้” ในข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทานที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเพียงผู้ผลิตตรวจสอบย้อนกลับตามที่ได้ว่าไว้ก็จะสามารถตรวจสอบได้แน่นอน แต่ถึงไม่ต้องรอให้ตรวจสอบย้อนกลับ ข้าวกล่องที่ต้องผ่านความร้อนด้วยการอุ่นในไมโคเวฟ โอกาสแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเจอหนอนดิ้นได้ตามที่ถูกกล่าวอ้าง เว้นแต่คนที่ซื้อมานั้นเอาข้าวกล่องอุ่นแล้วไปวางไว้ในที่ที่อาจจะมีแมลง หรือหนอนบังเอิญหล่น หรือเข้ามาอยู่ในกล่องได้
อ.ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาทางกฎหมาย สมาคมผู้ดูแลเว็บไทย และผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอิเล็กทรอนิกส์ ให้ข้อคิดกรณีว่า ก่อนอื่นเลยผู้เสพสื่อโซเชียลต้องมีสติ มีวิจารณญาณอย่างมากในการรับและเชื่อข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาจากแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ ว่ามีความเป็นไปได้แค่ไหน บ่อยครั้งที่อาจจะถูกกระแสอารมณ์พาไปจนทำให้เหตุผลตามมาไม่ทัน
ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า “ข่าวปลอม” หรือ “ข่าวบิดเบือน” ตอนนี้ท่วมท้นมาก โดยเฉพาะพวกที่สร้างคอนเทนต์ออกมาเรียกยอด Like ให้คนแห่คอมเมนต์ แล้ว share ออกไป ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นเรื่องจริง เป็นการปั้นเรื่องขึ้นมา ก็จะถือเป็นความผิดตามกฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แม้จะไม่ได้ระบุแบรนด์สินค้า หรือชื่อร้านสะดวกซื้อที่มาก็ตาม
ทั้งนี้ เพราะทางข้อกฎหมายถือว่า เจ้าของแบรนด์สินค้า และร้านสะดวกซื้อคือผู้เสียหายจากการเผยแพร่เนื้อหาที่ไม่เป็นความจริงออกไป สามารถจะฟ้องร้องดำเนินคดีต่อผู้เกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต และเผยแพร่ภาพ คลิป หรือข้อความ รวมถึงสื่อที่นำไปเสนอต่อ ไม่เว้นแม้กระทั่งคนที่เข้ามากด Like กด Share และแสดงความคิดเห็นด้วย
สำหรับคนที่อารมณ์อยู่เหนือสติไปแล้ว หากได้รับการชี้แจง หรือตักเตือนไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นไร ที่ทำได้คือการเข้าไปลบ Comment ออก ไม่เช่นนั้นจากหนอนดิ้นได้ จะกลายเป็นดิ้นไม่หลุด หากเจ้าของแบรนด์เขาลุกขึ้นมาฟ้องร้องเอาจริง