การตลาด - ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) เผยข้อมูลวิจัยเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของ “ภูเก็ต” ธุรกิจโรงแรมประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 อัตราเข้าพักสูงถึง 70% ปูทางสำหรับการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงต่อไป แต่หวั่นปัญหาอื่น โครงสร้างพื้นฐานยังไม่เสร็จอีกมาก การจราจรติด บุคลากรโรงแรมขาดแคลน ด้านเอกชนคึกคัก แบรนด์ใหม่เปิดตัว แบรนด์เก่าปรับใหญ่ รับตลาดฟื้นตัว
ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้นถึง 75% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2565 โดยพบว่ารัสเซียและจีนเป็นสองตลาดต้นทางการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในช่วงหกเดือนแรกของปี โดยมีอินเดีย ออสเตรเลีย และคาซัคสถาน ตามมาติดๆ
*** อัตราเข้าพักโรงแรมพุ่ง 70%
ขณะที่อัตราการเข้าพักโรงแรมในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 สูงกว่า 70% และสิ่งที่ส่งผลดีอย่างแท้จริงต่อเจ้าของโรงแรมคือแนวโน้มอัตราราคาห้องพักที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากวิกฤตโรคระบาด แม้ว่าโดยส่วนใหญ่ของโรงแรมที่จดทะเบียนในภูเก็ตกว่า 2,000 แห่ง และมีห้องพักมากกว่า 106,000 ห้องจะกลับสู่สภาวะปกติแล้ว แต่บรรดาผู้ประกอบการโรงแรมยังคงประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานภาคบริการอย่างต่อเนื่อง
ผลจากธุรกิจการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว คือปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุปสงค์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเฟื่องฟูเกินไป และการกลับมาของโครงการพัฒนาต่างๆ ทำให้การจราจรติดขัดจนเป็นปัญหาที่น่ากังวลมาก ซึ่งจะส่งผลกระทบและเป็นปัญหาระยะยาวต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายบิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้บริหาร ซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ (C9 Hotelworks) กล่าวว่า “ช่วงพีกซีซันปี 2566/2567 มีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหารถติดอย่างหนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งนักท่องเที่ยวและผู้อยู่อาศัย ความล้มเหลวในการผลักดันโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งให้เป็นความจริงในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบในระยะยาว”
โครงการสำคัญที่ยังไม่แล้วเสร็จ ได้แก่ อุโมงค์ป่าตอง-กะทู้ ทางด่วนข้ามเกาะ และระบบรถไฟฟ้ารางเบา แม้ว่ารัฐบาลปัจจุบันจะให้ความสำคัญต่อโครงการเหล่านี้ แต่ยังไม่มีศักยภาพในการจัดสรรงบประมาณภาครัฐในขณะนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการร่วมทุนระหว่างภาครัฐกับเอกชน หรือโครงการ BOT (build-operate transfer) เพื่อให้โครงการเหล่านี้ดำเนินต่อไปได้ ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ซึ่งเป็นที่ต้องการเป็นอย่างมากด้วย
การคาดการณ์สำหรับช่วงพีกซีซันที่ใกล้จะมาถึง ข้อมูลวิจัยเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของซีไนน์พบว่า ทั้งโรงแรมและธุรกิจการท่องเที่ยวต่างมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการกลับมาอย่างช้าๆ ของนักท่องเที่ยวชาวจีน ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในตลาดขนาดใหญ่นี้ได้รับความเสียหาย และความเชื่อมั่นในการเดินทางมาประเทศไทยยังคงอ่อนแอแม้จะมีนโยบายยกเว้นวีซ่าก็ตาม เนื่องจากการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยวจีนยังไม่เกิดขึ้นจริง โรงแรมส่วนใหญ่จึงต้องการกำลังซื้อที่แข็งแกร่งจากรัสเซีย คาซัคสถาน และอินเดีย รวมถึงนักท่องเที่ยว “Snow Bird” ช่วงฤดูหนาว
แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของโรงแรมในภูเก็ตจะมีความพร้อม แต่บิลก็ชี้ให้เห็นว่า “แนวทางการแก้ปัญหาการท่องเที่ยวแบบพยายามอุดรอยรั่วของภาครัฐจะไม่สามารถใช้ได้ผลในพื้นที่ท่องเที่ยวระดับนานาชาติที่โตเต็มตัวอย่างภูเก็ต ภาคเอกชนของเกาะได้เติบโตเกินกว่าโครงสร้างพื้นฐานระดับจังหวัดที่ล้าหลังมาเกือบสองทศวรรษแล้ว สิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมากคือแผนแม่บทและกลยุทธ์ที่จะสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เสื่อมโทรมให้รวดเร็วขึ้น”
สำหรับอัตราผู้โดยสารขาเข้า ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ในช่วงครึ่งปีแรกปี 2566 นี้พบว่ามีรวมประมาณ 3.4 ล้านคน แบ่งเป็นคนไทยประมาณ 1.6 ล้านคน ขณะที่ปีที่แล้ว (2565) ทั้งปีพบว่ามีผู้โดยสารขาเข้าภูเก็ตรวมประมาณ 3.9 ล้านคน เป็นคนไทยประมาณ 2.3 ล้านคน ส่วนปี 2564 มีผู้โดยสารเดินทางเข้าภูเก็ตรวมประมาณ 9 แสนคน เป็นคนไทยมากกว่า 7 แสนคน
*** ช่วง 8 เดือน นักท่องเที่ยวกลับคืนภูเก็ตแล้ว 70%
นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2566 นี้พบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาภูเก็ตแล้วประมาณ 60-70% เมื่อเทียบกับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด และมีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้วกว่า 370,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับรายได้ในปี 2562 ก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด ที่ภูเก็ตมีรายได้จากการท่องเที่ยว 440,000 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวที่เข้ามาภูเก็ตหลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูง มีการจับจ่ายที่มากกว่าก่อนหน้านี้
“แม้ว่าอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าในช่วงไฮซีซันนี้จะดีมาก แต่คิดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาไม่น่าจะเท่ากับปี 2562 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่คาดว่าไม่น่าจะน้อยกว่า 80% ซึ่งจากตัวเลขนักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ความเคลื่อนไหวด้านการท่องเที่ยวโดยเฉพาะโรงแรมในภูเก็ตก็มีความคึกคักอย่างมากในขณะนี้ หลังจากที่สถานการณ์การท่องเที่ยวกลับมากระเตื้องขึ้นมาก และคาดว่าในปีหน้าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนเกิดโควิด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่สามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย ในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดทำรายได้มากถึงกว่า 4.7 แสนล้านบาท
*** “M Social’ โรงแรมสุดชิกระดับโลก ปัดหมุดแรกในไทยที่ภูเก็ต
ล่าสุด “M Social’ (เอ็ม โซเชียล) แบรนด์โรงแรมสุดชิกระดับโลก ปัดหมุดเปิดตัวโรงแรมแห่งแรกในไทย ‘M Social Phuket’ (เอ็ม โซเชียล ภูเก็ต) พร้อมการบริการระดับ 5 ดาวบนหาดป่าตอง และเทคโนโลยีที่ไร้รอยต่อ
นายซอรัพ ปาร์การ์ด รองประธานอาวุโสกลุ่ม ฝ่ายขาย มิลเลนเนียม โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท กล่าวว่า “M Social Phuket ไม่ใช่แค่โรงแรมเท่านั้น แต่เป็นวิถีชีวิต ความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และความล้ำสมัยด้านเทคโนโลยี พร้อมด้วยการออกแบบที่มีชีวิตชีวาและสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าตื่นเต้น ทำให้เราแตกต่างในอุตสาหกรรมการบริการ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ต้อนรับนักเดินทางจากทั่วโลกเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างและมีสไตล์ของ M Social”
นายพีเจย์ มายันดิ ผู้จัดการทั่วไป M Social Phuket กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับเข้าสู่ M Social Phuket ซึ่งเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ที่มีชีวิตชีวาในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่ M Social Phuket เราเชื่อในพลังของการต้อนรับแบบเปิดกว้าง ที่ซึ่งทุกคนจะได้รับการต้อนรับอย่างดีที่สุด ความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์ที่อบอุ่น ทั่วถึง และน่าจดจำ ถือเป็นหัวใจสำคัญของทุกสิ่งที่เราทำ แขกทุกคนไม่ได้เป็นเพียงผู้มาเยี่ยมเยียน แต่ยังเป็นสมาชิกคนสำคัญของครอบครัวของเรา และเรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้าพักว่าที่นี่จะพิเศษกว่าที่เคย”
M Social Phuket ตั้งอยู่ใจกลางย่านป่าตอง ของเกาะภูเก็ต ห่างจากหาดป่าตองที่ทรายขาวน้ำทะเลสีครามเพียงไม่กี่ก้าว รายล้อมด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ บาร์ และบีชคลับ ตั้งแต่สตรีทฟูดไปจนถึงระดับลักชัวรี สายชอปต้องถูกใจกับร้านค้าที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ มากมาย รวมถึง “ถนนคนเดินบางลา” (Bangla Walking Street) และ “ถนนสายรุ้ง” พิกัดแหล่งบันเทิงยอดฮิตที่ต้องแวะไปเช็กอินซึ่งไม่ไกลจากโรงแรม ส่วนนักเดินทางที่ชอบการผจญภัย สามารถออกไปใช้ชีวิตกันให้สุดกับกิจกรรมหลากหลาย เช่น เล่นพาราชู้ต ขี่เจ็ตสกี เซิร์ฟ ฯลฯ นอกจากนั้น โรงแรมแห่งนี้ยังดึงดูดนักเดินทางยุคใหม่ด้วยสไตล์และเอกลักษณ์ของโรงแรมสุดคูล ที่เชื่อมต่อกับบุคลิกของผู้เข้าพัก และกลายเป็นโซเชียลแห่งใหม่ของนักเดินทางที่รักการสร้างสรรค์เหมือนๆ กัน
ภายในโรงแรมมีห้องพักและห้องสวีตรวม 418 ห้อง แต่ละห้องให้นิยามใหม่ของการพักผ่อนที่ทันสมัย มอบประสบการณ์ที่น่าจดจำผ่านศิลปะ เทคโนโลยี และความสะดวกสบาย ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน พิถีพิถัน และล้ำยุค ทั้งผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำสุดหรูแบรนด์ Christian Lacroix ไปจนถึงนวัตกรรมผู้ช่วย AI Voice-Controlled ซึ่งนับเป็นโรงแรมแห่งแรกในภูเก็ตที่ใช้ในห้องพักทุกห้อง ช่วยให้ผู้เข้าพักเข้าถึงบริการต่างๆ ของโรงแรมได้อย่างราบรื่น
M Social Phuket นับเป็นโรงแรมในเครือแบรนด์ M Social แห่งที่ 6 ของโลก ซึ่งตั้งอยู่ทั่วเมืองท่องเที่ยวชั้นนำในสิงคโปร์ ปารีส และนิวยอร์ก นอกจากนี้ ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยของ Millennium Hotels & Resorts (มิลเลนเนียม โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท) แบรนด์ระดับโลกที่เป็นเจ้าของ บริหารจัดการ และบริหารโรงแรมมากกว่า 145 แห่งใน 80 ประเทศทั่วโลก
M Social เป็นแบรนด์โรงแรมไลฟ์สไตล์ของ Millennium Hotels and Resorts ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของการออกแบบร่วมสมัย เทคโนโลยีล้ำสมัย และการต้อนรับที่อบอุ่น คอลเลกชันโรงแรมสุดพิเศษที่แตกต่างกัน 6 แห่งตั้งอยู่ในเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก
*** อโมรากรุ๊ป ปรับใหญ่ “อโมรา บีช รีสอร์ต ภูเก็ต”
นางสาวอมรรัตน์ สิริภัทราวรรณ ประธาน อโมรา กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา อโมรา กรุ๊ป ได้วางแผนฟื้นฟูธุรกิจและทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตั้งรับการกลับมาของการท่องเที่ยวหลังฟื้นฟูอีกครั้ง ซึ่งทำให้มีความพร้อมแบบเต็มร้อยในการสานต่อธุรกิจกลุ่มโรงแรมห้าดาวแบบอิสระทั้งในไทยและออสเตรเลีย
ในปลายปีนี้มีแผนจะเปิดตัวรีสอร์ตในจังหวัดภูเก็ต จุดหมายปลายทางหลักในพอร์ตโฟลิโอปัจจุบัน ได้แก่ “อโมรา บีช รีสอร์ต ภูเก็ต” ซึ่งเป็นทรัพย์สินหลักที่เปิดให้บริการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2542 และกำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงใหม่ ด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท (ประมาณ 14 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือนธันวาคม 2566
ทั้งนี้ ในประเทศไทย การท่องเที่ยวของภูเก็ตที่กลับมาฟื้นตัวและแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้ทำให้มีอัตราการเข้าพักพุ่งแตะ 80% ในไตรมาสแรก ได้เพิ่มความมั่นใจให้กับ อโมรา กรุ๊ป ในการเดินหน้าเปิดตัวรีสอร์ตโฉมใหม่อย่างเต็มกำลัง โดยตามรายงานความคิดเห็นของ นายศักดิ์สิทธิ์ สุวรรณดิษฐกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ และนายรังสิมันตุ์ กิ่งแก้ว รองนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเผยข้อมูลนี้กับบางกอกโพสต์เกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวของภูเก็ตปี 2566-2567) คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลสู่ภูเก็ต ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศมากกว่า 14 ล้านคนภายในสิ้นปี พ.ศ. 2566 ซึ่งมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2562
นายเชาวภัทร์ สิริภัทราวรรณ เจ้าของและกรรมการ อโมรา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ต กล่าวให้ความเห็นว่า ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรมในภูเก็ตเริ่มกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่พบว่ายังมีปัญหาใหญ่สำคัญเกิดขึ้นคือเรื่องของการขาดแคลนบุคคลากรที่มีทักษะในธุรกิจโรงแรมอย่างมาก เนื่องจากในช่วงที่เกิดโควิด มีโรงแรมหลายแห่งต้องเลิกจ้างพนักงานไป ทำให้พนักงานต่างๆ ไปทำงานที่อื่นและจังหวัดอื่นกันแล้ว เมื่อธุรกิจกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น จำนวนพนักงานเดิมไม่ได้กลับมาทั้งหมด ก็ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนบุคลากรใหม่ให้มีทักษะในการบริการที่ดี
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอโมรากรุ๊ปไม่ประสบปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีการเตรียมพร้อมด้านบุคลากรไว้ก่อนอย่างดีแล้ว ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการ การฝึกทักษะการบริการ การให้ค่าตอบแทน สวัสดิการต่างๆ
**** “ศรีพันวา” เปิดโซนใหม่
โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต ก็เพิ่ง เปิดให้บริการโซนใหม่เร็วๆ นี้ คือชื่อ ย่าหยา (Yaya) เป็นอาคารสีฟ้าสดใส ประกอบไปด้วย ห้องพักพูลสวีต โซนใหม่ 24 ห้อง ตกแต่งในสไตล์เรียบหรู สะดวกสบาย ตามแบบฉบับของศรีพันวา พร้อมคอนเวนชันขนาดใหญ่ สำหรับจัดประชุม สัมมนา นิทรรศการ งานแต่งงาน และจัดกิจกรรม ที่จุคนได้ถึง 400 คน และ TU Bar รูฟท็อปชมพระอาทิตย์ตกบนชั้นดาดฟ้าที่วิวดีที่สุด แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ทุกคนต้องมา
อีกทั้งยังมี ย่าหยา พูลสวีท ห้องพูลสวีต 24 ห้อง ในอาคารย่าหยาสีฟ้าสดใส ออกแบบให้บรรยากาศภายในมีความต่อเนื่องกลมกลืนกับบรรยากาศ และทัศนียภาพจากภายนอก ตกแต่งภายในแบบร่วมสมัย ด้วยสีขาวครีม ร่วมกับสีเทอร์ควอยซ์ เขียวอมฟ้า และสี Fuchsia ชมพูอมม่วง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ระบบเสียงของ Bose และอ่างอาบน้ำ ห้องพูลสวีตแต่ละห้องมีขนาด 78 ตารางเมตร พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว ระบบควบคุมแสงสว่าง สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามัน
ทั้งนี้ รายงานของซีไนน์ โฮเทลเวิร์คส์ ก่อนหน้านี้ระบุว่า การเกิดขึ้นของโรงแรมใหม่ๆจากนี้ไปในภูเก็ตจะมีขึ้นต่อเนื่อง เช่น ปี 2567 ประเมินว่าจะมีโรงแรมใหม่เปิดเพิ่มอีก 8 แห่ง รวมกว่า 1,820 ห้องพัก เช่น โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ภูเก็ต กะตะ, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส แอนด์ สวีท กะตะ, โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา ภูเก็ต, โรงแรม เอ็มแกเลอรี มอนท์เอซัวร์ เลคไซด์ ภูเก็ต หาดกมลา, โรงแรมอังสนา โอเชี่ยนวิว หาดบางเทา, โรงแรม เรดิสัน ภูเก็ต ไม้ขาว, โรงแรม คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท ป่าตอง, โรงแรมมีเลีย ภูเก็ต กะรน, โรงแรมเมอเวนพิค ภูเก็ต กมลา
ส่วนปี 2568 ประเมินว่าจะมีโรงแรมเปิดใหม่อีกประมาณ 3 แห่ง รวมกว่า 699 ห้องพัก คือ โรงแรมมีเลีย ภูเก็ต กะรน, โรงแรม เมอเวนพิค ภูเก็ต กมลา และโรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ภูเก็ต กะตะ
ขณะที่ปี 2569 จะมีโรงแรมเปิดใหม่อีกประมาณ 4 แห่ง รวมกว่า 680 ห้องพัก ได้แก่ โรงแรมวีรันดา ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเลคชั่น, โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ภูเก็ต แอนด์ สปา อ่าวฉลอง, โรงแรม ดับเบิ้ลยู ภูเก็ต ในหาน, โรงแรม คอร์ทยาร์ด บาย แมริออท อ่าวฉลอง