xs
xsm
sm
md
lg

อ่วม! โรงงานขึ้นราคาน้ำตาล 4 บ./กก.แล้วหลังน้ำตาลโลกพุ่งกระฉูด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โรงงานน้ำตาลขยับราคาขายน้ำตาลทรายแล้ว 4-5 บ./กก. ตามราคาตลาดโลกที่พุ่งสูง จี้ สอน.ประกาศราคาหน้าโรงงานเพื่อคำนวณราคาอ้อยก่อนชาวไร่จะเสียเปรียบ ตามมติ กอน.เมื่อ 28 ก.ย. ที่ให้ขึ้น 4 บ./กก.โดยดึง 2 บาท/กก. เข้ากองทุนน้ำตาลเพื่อนำมาบริหารการปลูกอ้อยสดลด PM 2.5

แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาลเปิดเผยว่า  ยอมรับว่าขณะนี้หลายโรงงานรวมถึงยี่ปั๊ว ซาปั๊วได้มีการปรับราคาน้ำตาลทรายไปแล้วราว 4-5 บาท/กิโลกรัม (กก.) เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายขาวตลาดโลกบวกพรีเมียมคิดกลับเป็นเงินไทยที่อ่อนค่าราคาขยับไปสู่ระดับ 27-28 บาท/กก.แล้ว ดังนั้นรัฐโดยสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ควรจะต้องประกาศราคาน้ำตาลหน้าโรงงานตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจริงเพื่อนำมาคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2566/67 ภายใน พ.ย.นี้เพื่อให้ประโยชน์นั้นได้ตกกับชาวไร่อ้อยในการได้รับราคาน้ำตาลที่สูงขึ้นจากปริมาณน้ำตาลทรายจำหน่ายในประเทศที่จะมาคำนวณราคาขั้นต้น 25 ล้านกระสอบ

"ราคาน้ำตาลทรายขณะนี้ไม่ได้เป็นสินค้าควบคุมอะไร ที่ผ่านมาโรงงานก็พยายามรักษาระดับราคาไม่ให้สูง แต่หากรัฐยังยื้อที่จะประกาศผลเสียจะตกกับชาวไร่อ้อยที่จะได้คำนวณออกมาในราคาอ้อยที่สูงขึ้น และหากโรงงานไม่ขึ้นน้ำตาลก็อาจจะไหลออกนอกประเทศหมดได้" แหล่งข่าวกลา่ว

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)ได้หารือกับฝ่ายโรงงานน้ำตาลทรายและชาวไร่อ้อยในการพิจารณาแนวทางการสนับสนุนการตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ที่ชาวไร่ต้องการวงเงินสนับสนุน 120 บาท/ตันหรือคิดเป็นเงินงบประมาณราว 8,000 ล้านบาทที่รัฐยังคงค้างจ่ายปีการผลิต 2565/66 และความชัดเจนถึงการสนับสนุนในปีการผลิต 2566/67 ที่กำลังจะเปิดหีบสิ้นปีนี้ โดยการหารือมีการหยิบยกแนวทางการปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาทตามต้นทุนที่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกได้ปรับตัวสูงขึ้นรวมถึงเกณฑ์การช่วยเหลือการตัดอ้อยสดเพื่อลดอ้อยไฟไหม้ ที่ยังไม่มีข้อสรุปและมีการต่อรองในเรื่องของการปรับขึ้นราคาน้ำตาลแล้วอาจไม่จำเป็นต้องขอเงินสนับสนุน 120 บาท/ตันแต่ทางชาวไร่และโรงงานต่างเห็นว่าเป็นคนละเรื่อง
 
สำหรับมติ กอน.ก่อนหน้าการปรับราคาขึ้นจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือสะท้อนไปยังราคาหน้าโรงงานจริง กก.ละ 2 บาท และการเก็บเงินเข้ากองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย กก.ละ 2 บาท เพื่อนำไปจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ปลูกอ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลตามนโยบายลดฝุ่น PM 2.5 จากปัจจุบันราคาหน้าโรงงาน น้ำตาลทรายขาวธรรมดาอยู่ที่ กก.ละ 19 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 20 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกในท้องตลาด น้ำตาลทรายขาวธรรมดา กก.ละ 24 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ กก.ละ 25 บาท การปรับราคาดังกล่าวจะมีผลให้ราคาหน้าโรงงาน น้ำตาลทรายขาวธรรมดาปรับขึ้นเป็น กก.ละ 23 บาท น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ปรับขึ้นเป็น กก.ละ 24 บาท ขณะที่ราคาขายปลีกจะปรับขึ้นไปเป็น กก.ละ 28 บาท และ กก.ละ 29 บาทตามลำดับ หลังจากที่ราคาหน้าโรงงานเพิ่งปรับเพิ่มขึ้น กก.ละ 1.75 บาท เป็น กก.ละ 19 บาท และ กก.ละ 20 บาท เมื่อเดือนมกราคม 66

นายปารเมศ โพธารากุล ประธานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายดังกล่าวเป็นไปตามข้อเสนอที่ชาวไร่ผลักดันไปก่อนหน้านั้นและคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อ 28 ก.ย.ก็เห็นชอบ โดยปัจจัยหลักมาจากราคาตลาดโลกปรับขึ้นสูงแต่เรื่องดังกล่าวได้เงียบไปดังนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวกับว่าหากขึ้นราคาแล้วจะต้องไม่ได้รับเงิน 120 บาท/ตันแต่อย่างใด แต่หากรัฐบาลจะพิจารณาออกมาเช่นนั้นชาวไร่ก็พร้อมจะปฏิบัติตามแต่ขอเพียงให้รัฐมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวโดยเร็วก่อนที่จะมีการเปิดหีบปี 2566/67 ในช่วง ธ.ค.นี้

“การตัดอ้อยสดนั้นชาวไร่ยืนยันว่าเป็นนโยบายรัฐบาลที่ทำให้ชาวไร่อ้อยมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมากรัฐที่ผ่านมาจึงได้สนับสนุนเงินมาช่วยเหลือ 120 บาท/ตัน แต่หากไม่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าวก็จะซ้ำรอยเดิมเช่นปีที่ผ่านมาที่จนขณะนี้ก็ไม่ได้รับเงินสนับสนุนทำให้อ้อยไฟไหม้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นและการหารือล่าสุดชาวไร่อ้อยยืนยันว่ายังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมคือการส่งอ้อยไฟไหม้จะถูกหักเงินเข้ากองทุนตันละ 30 บาทเท่านั้นไม่รับข้อเสนอรัฐที่ต้องการหักถึง 90 บาทที่มันสูงเกินไปเหมือนเราเป็นผู้ร้ายทั้งที่รถยนต์ปล่อยมลพิษมากกว่าเราเยอะ” นายปารเมศกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น