การตลาด - “แจ่มจรัส” เปิดอินไซต์ผู้บริโภคตลาดภูธร ผุดกลยุทธ์ PHUTORN เล็งพาแบรนด์ลูกค้าคว้าโอกาสใหม่ ชี้พฤติกรรม แนวคิด ความสนใจคอนเทนต์แต่ละพื้นที่ต่างกันบนสื่อเดียวกัน โดยเฉพาะระหว่างผู้บริโภคภูธร กับผู้บริโภคในเมือง พบสื่อออนไลน์ 3 อันดับแรกที่เข้าถึงคนภูธรคือ Facebook, Tiktok และ Youtube เผยทริกเจาะเข้าถึงผู้บริโภคภูธรที่ตรงจริต เน้นกลวิธีสร้างความสนุกสนาน ความบันเทิง สอดรับความเชื่อและชีวิต เล็งแผนเชิงรุกพาแบรนด์สร้างโอกาสทางธุรกิจ รับแนวโน้มตลาดดิจิทัลภูธรโต 24% รวมมูลค่า 5.6 แสนล้านบาท ในปี 66
บริษัท แจ่มจรัส จำกัด คอมมิวนิเคชั่น ในเครือ YDM Thailand ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะตลาดภูธร ซึ่งมีหน้าที่หลักหรืออีกนัยหนึ่งคือ เป็นหัวหอกที่จะนำพาแบรนด์สินค้าหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ โดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเอเยนซีรายเดียวหรือไม่กี่รายที่เกิดขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดภูธรโดยเฉพาะ
"แจ่มจรัส" เอเยนซีน้องใหม่เปิดตัวเมื่อปี 2562 ซึ่งเกิดขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่าง บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันด้านดิจิทัลมาร์เกตติ้งรายใหญ่ของประเทศไทย ในเครือ Yello Digital Marketing (YDM) จากเกาหลีใต้ กับ “RMS” บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงลูกทุ่งรายใหญ่ของไทย ที่นำโดยนายสมยศ ชัยรัตน์
บริษัทใช้ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น YDM Thailand 45% และ RMS 45% และผู้ถือหุ้นรายย่อยที่เป็นกลุ่มผู้บริหารอีก 10% ซึ่งถึงแม้ว่าทางวายดีเอ็มจะมีบริษัทในเครืออยู่แล้วถึง 8 บริษัท แต่ความร่วมมือกับ RMS (บริษัท อาร์เอ็มเอส สตูดิโอ แอนด์ มัลติมีเดีย จำกัด) ก็ดูเหมือนว่าเป็นการเสริมความแข็งแกร่งเพิ่มมาอีกทางหนึ่งนั่นเอง
เพราะอาร์เอ็มเอสเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงลูกทุ่งรายใหญ่ของไทย ซึ่งมีเครือข่ายกับศิลปินกว่า 300 ราย ทั้งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของคนภูธร เช่น ฝน ธนสุนธร, หลิว อาจารียา, ฟิล์ม นรินท์ทิพย์, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, อาภาพร นครสวรรค์, ปอยฝ้าย มาลัยพร เป็นต้น รวมถึง แซ็ค ชุมแพ เจ้าของเพลงคำแพง ที่มียอดวิวบน YouTube มากกว่า 400 ล้านวิว โดยศิลปินเหล่านี้จะถือเป็น Influencer ระดับแนวหน้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำ Phutorn Marketing ซึ่งก็เท่ากับว่าเป็นการรุกตลาดภูธรมาร์เกตติ้งที่สมบูรณ์แบบ
คราวนี้ แจ่มจรัสจะมาเปิดเผยอินไซต์ผู้บริโภคตลาดภูธร 4 ภาค โดยชี้พฤติกรรม แนวคิด ความสนใจคอนเทนต์แต่ละพื้นที่ต่างกันบนสื่อเดียวกัน โดยเฉพาะระหว่างผู้บริโภคภูธร กับผู้บริโภคในเมือง โดยหลักๆ แล้วจะพบว่าสื่อออนไลน์ 3 อันดับแรกที่เข้าถึงคนภูธร คือ Facebook, Tiktok และ Youtube
นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เอเยนซีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและการทรานส์ฟอร์มธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล เผยว่า YDM Thailand เป็น Marketing Partner มีจุดแข็งในการร่วมขับเคลื่อนธุรกิจลูกค้าให้ประสบความสำเร็จบนเส้นทางการตลาด ผ่านการสื่อสารยุคใหม่ 3 ด้าน ได้แก่ 1. ด้านการใช้เทคโนโลยีการตลาด หรือ MarTech, 2. ด้านการใช้ครีเอทีฟ Full-Funnel และ 3. ด้านการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้ลูกค้า ซึ่ง YDM Thailand ได้ก่อตั้ง บริษัท แจ่มจรัส จำกัด ตั้งแต่ต้นปี 2562 เพื่อเป็นหัวเรือสำคัญของ YDM Thailand ในการหาโอกาสใหม่ในตลาดต่างจังหวัดให้ลูกค้า จุดแข็งที่ทำให้แจ่มจรัสแตกต่างคือ มีความเข้าใจอินไซต์ของตลาดต่างจังหวัดอย่างแท้จริง ผสมผสานการใช้สื่อทุกสื่อ ทั้ง Offline, Online และ On-ground
นายสมยศ ชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการและผู้บริหาร บริษัท แจ่มจรัส จำกัด ในเครือ YDM Thailand กล่าวว่า ตลาดต่างจังหวัดเป็นตลาดที่สำคัญ ด้วยประชากรที่มากกว่า หลายแบรนด์อาจมองว่าสื่อต่างๆ ที่เข้าถึงผู้บริโภคในเมืองสามารถเข้าถึงผู้บริโภคต่างจังหวัดได้ ความท้าทายมีมากขึ้น ด้วยการเติบโตจากสื่อออนไลน์ และเปิดโอกาสให้ธุรกิจใหม่ๆ ในทุกอุตสาหกรรม ทำให้ข้อได้เปรียบด้านความเข้าใจตลาดเป็นหัวใจสำคัญในการพาแบรนด์ขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความสำเร็จ ไปพร้อมกับการเติบโตของตลาดดิจิทัลและเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับเร่งด่วนที่เน้นกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภค ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบีประเมินธุรกิจบริการดิจิทัลในปี 2566 คาดมีโอกาสเติบโต 24% มูลค่าอยู่ที่ 5.6 แสนล้านบาท
ปัจจุบันพบว่าผู้บริโภคใช้เวลาบนสื่อออนไลน์มากกว่าสื่อทีวี ด้วยความสะดวกสบายในการเลือกเสพ คอนเทนต์บนสื่อที่สนใจได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ผู้บริโภคเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีอำนาจสื่ออยู่ในมือ ทั้งอำนาจ ที่การเลือกแชร์ เลือกรัก เลือกชอบ และการเลือกโพสต์สิ่งต่างๆ บนพื้นที่สื่อของตนเอง หรือการคอมเมนต์แสดงความเห็นต่างๆ ต่อแบรนด์ หรือเรียกอีกบริบทว่าผู้บริโภคคือ Audiences ของแบรนด์
ขณะเดียวกันพบสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงคนภูธร 3 อันดับแรก คือ Facebook รองลงมา Tiktok และ Youtube
วายดีเอ็มเคยระบุไว้เมื่อช่วงเปิดตัวแจ่มจรัสใหม่ๆ ว่า คนภูธรมีจำนวนมากถึง 84% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในไทย และมีการใช้จ่ายด้านสินค้าอุปโภคบริโภคมากมูลค่าถึง 307,000 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น 60% ของทั้งประเทศ
พฤติกรรมของคนภูธรมีการใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 89% โดยมีการใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 3.48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งก็ไม่น้อย ห่างจากคนกรุงเทพฯ ไม่มากนัก โดยคนกรุงเทพฯ ใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 5.83 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ทั้งคนกรุงเทพฯ กับคนภูธรมีพฤติกรรมการเสพสื่อและใช้อินเทอร์เน็ตไม่ต่างกันเท่าใด ขณะที่แพลตฟอร์มสื่อโฆษณาที่เข้าถึงก็คือ คนภูธรได้มากที่สุด 3 อันดับแรก สื่อออนไลน์ สื่อโทรทัศน์ และสื่อ Out of Home
ทั้งนี้ ในเมื่อคนภูธรมีทางเลือกการเสพข้อมูลข่าวสารที่มากขึ้น จากโอกาสที่มีมากขึ้น ด้วยช่องทางที่หลากหลาย ย่อมส่งผลให้แบรนด์สินค้าเผชิญกับความท้าทายมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นแบรนด์ต่างๆ จึงต้องคิดให้ดีว่าจะเจาะเข้าไปหาคนภูธรอย่างไรที่จะได้ตรงจริต ความเชื่อและชีวิต ได้มากที่สุด โดยเน้นกลวิธีสร้างความสนุกสนาน ความบันเทิง ในเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ที่ต่างกัน เพราะโอกาสทางธุรกิจของตลาดดิจิทัลภูธรที่เติบโตมากถึง 24% รวมมูลค่า 5.6 แสนล้านบาท ในปี 66 เป็นเป้าหมายหลัก
หากวิเคราะห์ลงรายละเอียดแล้ว จะพบว่า แต่ละภูมิภาคมีจุดเด่นและอินไซต์ผู้บริโภคที่เฉพาะตัวแตกต่างกัน ด้วยความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ความเชื่อ ที่ฝังรากลึก และปรากฏออกมาทางพฤติกรรม ความคิด ที่นักวางแผนการตลาดอาจมองด้วยคำถามว่า ทำไม ซึ่งสุดท้ายต้องมองลึกลงไปเพื่อหาเหตุผล และนี่คือ Insight ที่แท้จริงที่จะเอามาปรับใช้กับแบรนด์ได้
“สื่อสำหรับผู้บริโภคคนเมือง กับสื่อสำหรับผู้บริโภคคนภูธรคือสื่อเดียวกัน แต่ Content ที่ Engage กลับมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด ขณะที่ Facebook กับ Youtube ยังสำคัญ Tiktok ขยับมาแรง เพราะสนุก ผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย ดูได้ หัวเราะได้ ดูไปจนลืมเวลา และคนส่วนใหญ่เลือกเสพสื่อผ่านมือถือ Tiktok จึงตอบสนองความต้องการได้ดี ประเด็นสำคัญอยู่ที่รูปแบบคอนเทนต์การเล่าเรื่องที่สามารถกระตุ้นการรับรู้ ผูกโยงไปกับแบรนด์ระหว่างผู้บริโภคในหัวเมืองใหญ่ กับต่างจังหวัดแตกต่างกัน เพราะรากฐานของ Insight แตกต่างกัน”
ทั้งนี้ แจ่มจรัสมีจุดแข็งด้านข้อมูลอินไซต์ของผู้บริโภคใน 4 ภูมิภาค เข้าใจถึงวิถีชีวิต ค่านิยม วัฒนธรรม และความเชื่อ รวมถึงการสร้าง Brand Content ผ่านสื่อที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคที่แตกต่างกันได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
กลยุทธ์สำคัญที่แจ่มจรัสใช้ในการทำภูธรมาร์เกตติ้งแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1. ค้นหา Insight ให้เจอ 2. ร้อยรวม Insight กับ Brand Essence เพื่อสร้าง story 3. วางแผน ว่าสื่ออะไรที่จะเข้าถึงได้ดีที่สุด อาจเป็นโฆษณา, Music Marketing หรือ KOL และ 4. รายละเอียดในการวาง Content ที่ Tailored Made ผ่านสื่อต่างๆ เพื่อสร้าง Engage สูงสุด
นายสมยศเคยกล่าวด้วยว่า “หลายคนคิดว่าโฆษณาคือสื่อแบบเก่าๆ อย่างวิทยุ พรินต์ หรือทีวี เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังจะตาย แต่ตราบใดที่เรายังมีของขายในตลาด เราก็ต้องมีการสื่อสาร ซึ่งมันก็คือโฆษณานั่นแหละ หัวใจของโฆษณาที่เรียกว่า storytelling ยังอยู่ ยังไงเราก็ต้องเล่าเรื่องกันอยู่นั่นเอง จุดแข็งของแจ่มจรัสคือเป็นเอเยนซีที่มีความเข้าใจพฤติกรรมเชิงลึกของตลาดภูธร รวมทั้งยังมีเครื่องมือด้านดิจิทัลมาร์เกตติ้งที่แข็งแกร่งในการวิเคราะห์ Insight ต่างๆ”
ทั้งนี้ จุดแข็งของแจ่มจรัสคือ การเป็นเอเยนซีที่มีความเข้าใจ insight ของตลาดภูธรที่แท้จริง เนื่องจากเรามีเครื่องมือทางดิจิทัลมาร์เกตติ้งที่แข็งแกร่งจาก YDM Thailand ในการวิเคราะห์ insight ของคนภูธร อีกทั้งยังเป็นพาร์ตเนอร์กับ RMS ซึ่งครอบครองลิขสิทธิ์เพลงลูกทุ่งชั้นนำมากที่สุดในประเทศไทย และยังมีคอนเนกชันกับศิลปินลูกทุ่งชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฝน ธนสุนธร, หลิว อาจารียา, ฟิล์ม นรินท์ทิพย์, ยิ่งยง ยอดบัวงาม, อาภาพร นครสวรรค์, ปอยฝ้าย มาลัยพร, กิ๊ก รุ่งนภา, มอคค่า การ์เดน, วงพัทลุง ฯลฯ ซึ่งศิลปินเหล่านี้คืออินฟลูเอนเซอร์ระดับแนวหน้าที่จะเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการทำ Phutorn Marketing นั่นเอง
ดังนั้น การที่จะทำการตลาดวิเคราะห์หาข้อมูล อินไซต์ผู้บริโภคภูธรในพื้นที่ต่างๆ ย่อมมีความพร้อมในการนำเสนออย่างชัดเจน