กรมการค้าภายในตรวจตลาดเยาวราช รับเทศกาลกินเจ พบบรรยากาศคึกคัก คนออกมาจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น พ่อค้าแม่ค้าขายดีขึ้น เผยวัตถุดิบประกอบอาหารเจ ส่วนใหญ่ทรงตัว ทั้งเห็ดหอม ดอกไม้จีน แปะก๊วย ร้านค้าร่วมมือตรึงราคา แต่โปรตีนเกษตรขึ้นเล็กน้อย ส่วนผักสด ส่วนใหญ่ปรับลดลง เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รวมถึงน้ำมันพืช ซอสปรุงรส ย้ำปิดป้ายแสดงราคา ห้ามค้ากำไรเกินควร ใครพบเห็นแจ้งสายด่วน 1569
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังจากลงพื้นที่ตรวจการจับจ่ายสินค้าในช่วงก่อนเทศกาลกินเจ ปี 2566 ที่ตลาดเยาวราช โดยมีนายวิชัย ตรีรัตนสกุลเลิศ เลขาธิการคณะกรรมการชุมชนเยาวราช เข้าร่วม ว่า กรมได้ลงมาตรวจติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลกินเจตามนโยบายนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา เพื่อดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยพบว่าบรรยากาศปีนี้ คึกคักกว่าปีก่อน เพราะโควิด-19 เบาลงแล้ว ทำให้ประชาชนออกมาซื้อสินค้ากันเพิ่มมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้า มีแนวโน้มขายสินค้าได้มากขึ้น
โดยผลการสำรวจสถานการณ์ราคาวัตถุดิบประกอบอาหารเจต่าง ๆ พบว่า ส่วนใหญ่ราคาทรงตัว และผู้ประกอบการร้านค้าได้ยืนยันว่าจะพยายามไม่ปรับราคา และตรึงราคาเอาไว้ แต่โปรตีนเกษตรที่ผลิตมาจากถั่วเหลืองและจากแป้ง มีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เห็ดหอมราคาทรงตัว เบอร์ใหญ่ 440 บาท/กิโลกรัม (กก.) กลาง 380 บาท/กก. เล็ก 335 บาท/กก. และดอกไม้จีน 365 บาท/กก. ปีก่อน 420 บาท/กก. แปะก๊วย 95 บาท/กก. ขณะที่น้ำมันปาล์ม ขวดละ 45 บาท ปีก่อน 50 บาท น้ำมันถั่วเหลือง 55 บาท ปีก่อน 60 บาท และซอสปรุงรส ราคาลดลงตามที่ได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์
ส่วนราคาผักสด เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ภาพรวมถือว่าราคาถูกลงค่อนข้างมาก แต่บางรายการ ถ้าเทียบกับสัปดาห์ก่อน อาจจะมีการปรับขึ้นมาบ้าง เนื่องจากว่าสถานการณ์ฝนฟ้าที่ตกลงมา ทำให้ผักบางชนิด เช่น ผักบุ้งมีปัญหาเรื่องต้นล้ม ส่วนผักคะน้า อาจจะมีความอ่อนไหวในเรื่องใบและรา โดยผักคะน้าราคาทั่วประเทศเฉลี่ย 44 บาท/กิโลกรัม (กก.) ปีที่แล้ว 47-48 บาท/กก. ถั่วฝักยาว 42 บาท/กก. ปีที่แล้วอยู่ที่ 50 บาท/กก. ผักบุ้งจีน 38 บาท/กก. ปีที่แล้ว 40 กว่าบาท/กก. ส่วนผักชี ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 123 บาท/กก. พริกขี้หนูจินดา 72 บาท/กก. จากปีที่แล้ว 100 กว่าบาท/กก.
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าในตลาดสด และร้านค้า ที่จำหน่ายวัตถุดิบอาหารเจ ผักสด และอาหารเจ เพื่อกำกับดูแลการจำหน่าย และการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการปิดป้ายแสดงราคา และห้ามมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดยกรณีไม่ปิดป้ายราคา มีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท กรณีที่ค้ากำไรเกินสมควร มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งได้ประสานให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ทำการตรวจสอบเช่นเดียวกันด้วย ส่วนประชาชน หากพบเห็นพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ กรมได้ประสานนำสินค้าวัตถุดิบอาหารเจ และผักสด จำหน่ายผ่านรถโมบาย 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ในการซื้อสินค้า นอกเหนือจากสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ทั้งข้าวสาร น้ำตาลทราย น้ำมันพืช ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ที่มีจำหน่ายเป็นปกติอยู่แล้ว