xs
xsm
sm
md
lg

ไทยส่ง THEOS-2 สู่อวกาศ 7 ต.ค.นี้ ชี้ศักยภาพสู่เศรษฐกิจอุตฯ อวกาศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หากนับถอยหลังอีกไม่ถึง 5 วัน ก็จะถึงเช้าวันที่ 7 ตุลาคม (เวลาไทย) ที่เป็นกำหนดส่งดาวเทียม THEOS-2 เข้าไปโคจรอยู่บนอวกาศแล้ว

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) นายเรมี ล็องแบร์ อุปทูตรักษาการเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย และนายโอลิวิเย่ร์ ชาร์ลเวท จาก AIRBUS ร่วมเปิดเผยถึงความพร้อมของดาวเทียม THEOS-2 ก่อนขึ้นสู่อวกาศ ในงาน“THEOS-2 : Shaping Thailand’s Future from Space, Our Commitment” ชึ่งดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ของไทยดวงนี้มีกำหนดการขึ้นสู่อวกาศในวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 08.36 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ณ ท่าอวกาศยานยุโรปเฟรนช์เกียนา (Guiana Space Center) ในทวีปอเมริกาใต้ 

นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ดาวเทียม THEOS-2 เป็นดาวเทียมสำรวจโลก หรือ Earth observation satellite หนึ่งในสองดวงที่อยู่ภายใต้โครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา ที่ดำเนินการโดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ซึ่งมีศักยภาพถ่ายภาพและผลิตภาพสีรายละเอียดสูงมากในระดับ 50 เซนติเมตร สามารถถ่ายภาพและส่งข้อมูลกลับมายังสถานีภาคพื้นดินได้ไม่ต่ำกว่า 74,000 ตารางกิโลเมตรต่อวัน และข้อมูลจากดาวเทียมจะถูกใช้ในการปรับปรุง (Update) ข้อมูลในทุกพื้นที่ของไทยให้เป็นปัจจุบันอย่างละเอียดและถูกต้อง ช่วยให้ โดยเฉพาะด้านทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาอุตสาหกรรมอวกาศ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การวางแผนบริหารจัดการพื้นที่ที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำมาใช้ในการจัดการเกษตร การบริหารจัดการน้ำ การจัดการภัยธรรมชาติ การจัดการเมือง และทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงยังช่วยพัฒนาและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ 

สำหรับข้อมูล THEOS-2 นี้ GISTDA จะเปิดโอกาสให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา ได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อจะได้นำไปต่อยอดหรือการบริการเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงจะเป็นแรงผลักดันเพื่อขับเคลื่อนด้านการศึกษา การวิจัยและนวัตกรรมในการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ และเทคโนโลยีอวกาศในการพัฒนาองค์ความรู้ สร้างนักพัฒนานวัตกรรมทุกระดับตั้งแต่ระดับเยาวชน startup  SMEs และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ ตามนโยบายของ อว.ที่มุ่งเน้นในการสร้างคน สร้างความรู้ สร้างนวัตกรรม เพื่อพัฒนาประเทศ

นางสาวศุภมาสกล่าวอีกว่า การนำส่งดาวเทียม THEOS-2 ในครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สำหรับอนาคตของประเทศไทย เพราะเป็นการนำส่งดาวเทียมที่จะนำมาสู่การยกระดับรูปแบบการพัฒนาประเทศด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งในฐานะผู้แทนของรัฐบาลที่กำกับดูแลหน่วยงานกิจการอวกาศของประเทศและคนไทยจะร่วมเดินทางไปปล่อยดาวเทียม THEOS-2 ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จในการนำดาวเทียมความละเอียดสูงมากของไทยดวงนี้ขึ้นสู่อวกาศ ในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวนชาวไทยทุกคนร่วมส่งกำลังใจให้ทีมงาน GISTDA และประเทศไทยในการส่งดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ เพราะการนำส่งดาวเทียมสำรวจโลกครั้งนี้ถือเป็นการส่งดาวเทียมความละเอียดสูงมากครั้งแรกของประเทศไทย
 
"อีกเรื่องที่น่าสนใจ ที่ได้เห็นกันคือ นิทรรศการภายในงานซึ่ง GISTDA ได้พยายามทำให้เทคโนโลยีอวกาศเข้าไปใกล้ชิดประชาชนมากยิ่งขึ้นผ่านการทำกิจกรรมกับโรงเรียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เยาวชน ดิฉันขอให้กำลังใจเยาวชนทุกคน และขอให้มั่นใจว่ากระทรวง อว.จะพยายามให้ดีที่สุดที่จะสร้างเส้นทางอาชีพสำหรับบุคลากรในอุตสาหกรรมอวกาศ อันเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของไทยให้เห็นเป็นรูปธรรม
 
การปล่อยดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2 ขึ้นสู่วงโคจรในวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมนี้ จึงเป็นหมุดหมายสำคัญอีกครั้งหนึ่งของวงการเทคโนโลยีอวกาศไทย และในโอกาสนี้ดิฉันจึงขอเชิญชวนคนไทย และพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านร่วมยินดีและติดตามการปล่อยดาวเทียม THEOS-2 ไปด้วยกัน และช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้เห็นว่าไทยกำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด และนี่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของอนาคต ที่จะถูกบันทึกไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย”
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อดาวเทียม THEOS-2 ok ขึ้นสู่อวกาศแล้วจะใช้เวลาอีกประมาณ 5-7 วันในการปรับตัวเองให้เข้าสู่วงโคจรที่แท้จริง และจะใช้เวลาอีกประมาณ 6 เดือนที่จะทดสอบระบบต่างๆ ก่อนเปิดให้บริการ ทั้งนี้ ดาวเทียม THEOS-2 จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ โดยกระทรวง อว.จะผลักดันนโยบายเรื่องเศรษฐกิจอวกาศของประเทศไทยให้เป็นจริงโดยเร็ว
 
"GISTDA" ชี้ผลดีช่วยยกระดับคุณภาพประชาชน
 
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า ดาวเทียม THEOS-2 จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้รัฐบาลในการบริหารจัดการประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศทางด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศอีกด้วย สำหรับการนำข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 มาใช้ในการพัฒนาประเทศสามารถเป็นไปได้ในหลากหลายมิติ เช่น การจัดทำแผนที่ เนื่องจากดาวเทียม THEOS-2 สามารถบันทึกภาพและความละเอียดสูงถึง 50 เซนติเมตรต่อ pixel และพัฒนาให้เป็นข้อมูลสามมิติได้ จึงสามารถนำไปผลิตแผนที่มาตราส่วนใหญ่ได้ถึงมาตราส่วน 1: 1000 
 
นอกจากนี้ยังช่วยการจัดการเกษตรและอาหาร ดาวเทียม THEOS-2 สามารถใช้ในการวิเคราะห์ และประเมินพื้นที่เพาะปลูก การจำแนกประเภทพืชเกษตรสุขภาพพืช และการคาดการณ์ผลผลิตที่จะเกิดขึ้น คุณสมบัติเหล่านี้จะนำไปสู่การเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรที่ครอบคลุมพืชเศรษฐกิจหลักอย่างน้อย 13 ชนิด ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนการคาดการณ์ผลผลิตล่วงหน้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้แก่ครอบครัวเกษตรกร
 
นำข้อมูลดาวเทียมมาบูรณาการแก้ปัญหาน้ำ

ดร.ปกรณ์กล่าวต่อไปว่า ดาวเทียมดวงนี้จะนำมาใช้ในการบริหารจัดการน้ำแบบองค์รวม ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 นั้นสามารถใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำและประเภทของแหล่งน้ำทั่วประเทศ ใช้ในการตรวจสอบข้อมูลของแหล่งน้ำ การคำนวณปริมาณน้ำของแหล่งน้ำต้นทุน และด้วยที่ THEOS-2 เป็นดาวเทียมที่มีความละเอียด 50 เซนติเมตร จึงทำให้สามารถตรวจจับแหล่งน้ำที่มีวัชพืชหนาแน่น การบริหารจัดการน้ำทุ่งเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้แก่ครอบครัวเกษตรกร และการบริหารจัดการน้ำภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศ
 
ช่วยแก้ปัญหา การจัดการภัยธรรมชาติ ข้อมูลดาวเทียม THEOS-2 ที่ได้จะถูกนำไปใช้ในการวางแผน ป้องกัน แจ้งเตือน อพยพ และบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติได้อย่างทันท่วงที หรือเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นแล้วข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการฟื้นฟูความเสียหายในเชิงพื้นที่ และการเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยที่สูงขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
 
นอกจากนี้ ยังช่วยการจัดการเมืองโดยเฉพาะแนวขอบเขตที่ดินและขอบเขตชายแดน ข้อมูลจากดาวเทียม THEOS-2 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สําคัญของประเทศ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำ โครงการเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง การเชื่อมโยงเขตอุตสาหกรรมเดิมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบบริการสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาธารณสุข การศึกษา การเดินทาง และแหล่งทรัพยากรน้ำ

ดร.ปกรณ์ยังกล่าวอีกว่า ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ ข้อมูลจากดาวเทียมTHEOS-2 ทำให้เรามองเห็นสภาพของปัญหาในมุมกว้าง เป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการบุกรุกป่าและการบริหารจัดการป่าชุมชนบนฐานความสมดุลของการอยู่ร่วมกันระหว่างป่า ทั้งป่าบก ป่าชายเลน และชุมชน ให้สอดคล้องกับการรักษาความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งใช้ในการติดตามการดูดซับและปลดปล่อย Carbon โดยจะนำข้อมูลจากดาวเทียมมาใช้ในกระบวนการตรวจวัด และประเมินคาร์บอนที่ได้มาตรฐาน รวดเร็ว แม่นยำ และโปร่งใส ตามมาตรฐานสากล
 
“การส่งดาวเทียม THEOS-2 ขึ้นสู่อวกาศในครั้งนี้ถือเป็นการส่งดาวเทียมระดับปฏิบัติการที่สามารถนำไปใช้งานได้จริงตามภารกิจของประเทศดวงที่ 2 ของไทยในรอบ 15 ปีหลังจากส่งไทยโชตเมื่อปี 2551 ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีดาวเทียมTHEOS-2 จะเป็นการตอบโจทย์การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในมิติต่างๆ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ เพราะ “เศรษฐกิจ” คือปากท้องของประชาชน จะเป็นกลไกหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ GISTDA ในฐานะหน่วยงานภายใต้กระทรวง อว. พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์จากข้อมูลดาวเทียมดวงนี้ในการแก้ไขปัญหา ทั้งในมิติของการแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่และมิติของการพัฒนาพื้นที่เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาแบบยั่งยืนของประเทศไทยต่อไป” ดร.ปกรณ์กล่าว

"ดร.ปกรณ์" ตั้งเป้าไทยจะก้าวสู่อุตฯ อวกาศ
 
หากย้อนหลังจากภารกิจร่วม 15 ปีของดาวเทียมไทยโชตที่ขึ้นสู่วงโคจรไปเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ถึงเวลาที่ GISTDA จะผลักดันเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน โครงการ THEOS-2 จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยเป้าหมายหลักคือสานต่อภารกิจเดิมของไทยโชตดวงแรก ด้วยระบบภาคพื้นดินและคุณภาพที่สูงขึ้นของดาวเทียมดวงใหม่ และการพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมอวกาศไทย เพื่อให้การลงทุนของพวกเราในครั้งนี้ได้ประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมของไทยเพื่อคนรุ่นถัดไป
    
ตลอดระยะเวลาหลายปีของการดำเนินโครงการนี้ เราได้เห็นศักยภาพของคนไทย ทั้งกลุ่มวิศวกรที่ร่วมอบรมและผู้ประกอบการไทยที่สามารถผลิตชิ้นส่วนได้มาตรฐานระดับอวกาศยาน ซึ่ง THEOS-2 ยกระดับทั้งการพัฒนาดาวเทียมและระบบควบคุมภาคพื้นดิน ศูนย์ควบคุมดาวเทียมที่ศรีราชามีโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการสร้างและพัฒนาดาวเทียมดวงต่อๆ ไปของประเทศไทยได้ และยังเปิดโอกาสสำหรับการวิจัยและพัฒนาเพื่อนักวิจัยระดับสูง และผู้ประกอบการเทคโนโลยีอวกาศได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย นับเป็นการก้าวไปอีกขั้นของอุตสาหกรรมอวกาศ 

ทั้งหมดนี้ GISTDA อยากให้คนไทยได้เห็น ทั้งห้องทดลองและศูนย์ควบคุม และได้ประโยชน์จากการประยุกต์ใช้ข้อมูลดาวเทียมจาก THEOS-2 เราจะมีความหวังในการพัฒนาประเทศ การใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ได้ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรที่จะต่อยอดต่อไปได้ จะนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ของประเทศไทยหลังจากนี้อย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น