ผู้จัดการรายวัน 360 – “เพาเวอร์มอลล์” ชี้ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปลายปีนี้คึกคัก ปัจจัยบวกมีต่อเนื่อง ส่งผลดีถึงปีหน้า คาดตลาดรวมปีนี้เติบโต 5% ขณะที่เพาเวอร์มอลล์ปีนี้โตมากกว่า 10% พร้อมจัดงานใหญ่กระตุ้นตลาด
นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานห้างสรรพสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าปี2566นี้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 5% จากปีที่แล้ว ด้วยมูลค่ารวมถึง 230,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และคาดว่าในปีหน้าตลาดรวมจะมีการเติบโตที่ดีกว่าปีนี้แน่นอน จากปัจจัยบวกต่างๆที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ปีนี้ตลาดรวมคาดว่าจะคึกคักและดีกว่าปีที่แล้ว ด้วยปัจจัยบวกหลายประการ เช่น ความแน่นอนของมาตรการภาครัฐหลังจากที่มีรัฐบาลชัดเจน กำลังซื้อที่ดีขึ้นโดยเฉพาะตลาดระดับกลางขึ้นบน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น การออกสินค้าใหม่และการทำตลาดของแบรนด์หลักๆ อีกทั้งนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต น่าจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ตลาดรวมดีขึ้น และส่งผลต่อเนื่องถึงปีหน้าเช่นกัน แต่ในส่วนของตลาดระดับกลางลงล่างยังไม่ค่อยดีนักในเรื่องของกำลังซื้อและปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังมีอยู่
สำหรับปีนี้กลุ่มสินค้าที่ยังเติบโตดีก็ยังคงเป็น แอร์โตมากกว่า 10% ที่มีตลาดรวมมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท ทีวีไซส์ใหญ่ ขนาด 70 นิ้วขึ้นไปซึ่มีสัดส่วนมากกว่า 20% ของตลาดทีวีรวม, มือถือและอุปกรณ์ไอทีที่มีมูลค่าตลาดกว่า 130,000 ล้านบาท
ในส่วนของเพาเวอร์มอลล์ ของเดอะมอลล์กรุ๊ป ในช่วงครึ่งปีแรกนี้ก็มีการเติบโตที่ดีกว่าตลาดรวมคือเติบโตมากกว่า10% และคาดว่าทั้งปีนี้ก็จะเติบโตมากกว่า 10% เช่นกัน
“ตอนนี้แบรนด์ต่างๆมองประเทศไทยเป็นตลาดหลักตลาดสำคัญของเขาในภูมิภาคนี้ ม้ว่าประชากรมีเพียง 70 กว่าล้านคน แต่เป็นตลาดคุณภาพมีกำลังซื้อสูง จึงทำให้มีสินค้าแบรนด์ใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆเข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง”
นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริหารสินค้า Specialty บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มส่งสัญญาณบวกและมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเพาเวอร์ มอลล์ ที่มีตัวเลขโดยรวมเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว โดยกลุ่มโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ 25% กลุ่มทีวีไซส์ใหญ่ 50% กลุ่มเครื่องซักผ้า 15% โดยมีแรงหนุนจากผู้ประกอบการแบรนด์ที่มีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดและไลน์อัพสินค้าครบครันทุกกลุ่มสินค้า พร้อมทุ่มงบการตลาดและกิจกรรมกระตุ้นการขายอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับลูกค้ามีความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักอย่างชัดเจน
ทิศทางของเพาเวอร์มอลล์ จะยังคงเป็นผู้นำในการเปิดตัวนวัตกรรมเป็นที่แรกและเพิ่มความหลากหลายของไลน์อัพสินค้าด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ รุกชิงส่วนแบ่งตลาดในเซ็กเมนต์ต่างๆ อย่างครบครัน รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดในช่วงไตรมาส 4 แบบครบทุกมิติ, กระตุ้นกำลังซื้อผ่านช่องทางการจำหน่าย นอกเหนือจากในห้างฯ ผ่าน MONLINE.COM เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวเพาเวอร์ มอลล์ เมกะสโตร์โฉมใหม่ ที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ – บางแค รวม 2 สาขา เปิดช่วงปลายปีนี้ ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ครอบคลุม 2 สาขารวมกว่า 11,000 ตร.ม. จากเดิมพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร เพิ่มอีก 1,000 กว่าตารางเมตรแต่ละสาขา และมีแบรนด์ที่ยังไม่เคยเปิดที่เพาเวอร์มอลล์สองสาขานี้ ก็เริ่มขยายมาเปิดด้วยเช่นกันเพื่อรองรับความเติบโตที่สูงขึ้นและการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องของกรุงเทพฝั่งตะวันออกและกรุงเทพฝั่งตะวันตก และคาดว่าจะปิดยอดขายของ เพาเวอร์มอลล์ในไตรมาสที่ 4 เติบโตกว่า 20% จากจำนวน 10 สาขา โดยสามสาขาแรกที่ขายดีคือ สาขาสยามพารากอน สาขาบางกะปิ และสาขาเอ็มโพเรียม
ล่าสุดเตรียมจัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ถืภายใต้คอนเซ็ปต์ “POWER MALL FIRST” ชูนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ทั้งฟังก์ชั่น AI, Wellness & Healthy Lifestyle, และ Sustainability รับเทรนด์มาแรง พร้อมมอบความคุ้มค่า สินค้าลดสูงสุด 60%, รับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 15,000 บาท, ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน, สมาชิก M CARD ลดเพิ่มสูงสุด 15%, สมาชิกบัตรเครดิตที่ร่วมรายการรับคะแนนสะสมรวมสูงสุด 20,000 คะแนน หรือบัตรกำนัลห้างฯ สูงสุด 20,000 บาท ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ครบทุกมิติ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 31 ตุลาคม 2566 ที่ POWER MALL ทุกสาขา รวมพื้นที่การจัดงานทั้งหมดมากกว่า 45,000 ตารางเมตร คาด 34 วัน ยอดขายเติบโตจากปีที่ผ่านมา 15%