“พาณิชย์”จับมือจังหวัดนครศรีฯ ติดตามซื้อขายมังคุด พบผู้ประกอบการเต็มพื้นที่ ดันราคาดีดตัวขึ้น

“พาณิชย์”ผนึกกำลังจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมังคุด พบผู้ประกอบการเข้าซื้อเต็มพื้นที่ ดันราคาดีดตัวขึ้น 5 วันติด เกรดมันรวมใหญ่ กิโลละ 46-61 บาท กำชับลงพื้นที่ติดตามต่อเนื่อง ทั้งนครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และยะลา ส่วนการนำขายในห้าง ผลตอบรับดีมาก คนแห่ซื้อ เตรียมซื้อไปขายเพิ่ม

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่านายไตรรัตน์ ไชยรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางประไพ เพชรพงศ์พันธุ์ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ตามติดสถานการณ์มังคุดในพื้นที่แหล่งผลิตหลักของมังคุดอย่างนครศรีธรรมราช ณ จุดรับซื้อ 1.บจก.ริชฟิลด์ เฟรชฟรุท ต.แพงเซา อ.เมือง 2.ล้งเจ๊นา TD ต.ท่างิ้ว อ.เมือง 3.โรงคัดบรรจุสูเฟ่ยหวัง ต.ท่างิ้ว อ.เมือง และติดตามการประมูลของกลุ่มประมูลวิสาหกิจชุมชนมังคุด บ้านทอนหงส์ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช พบว่า มีผู้ประกอบการ ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ล้งจากในพื้นที่ และที่กรมประสาน ได้เข้าไปรับซื้อมังคุดจากกลุ่มประมูลมังคุดคุณภาพ และจากเกษตรกรโดยตรงเต็มพื้นที่แล้ว มั่นใจสามารถดูแลราคาทั้งในกลุ่มประมูลและกลุ่มเกษตรกร ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเกษตรกรรายย่อยมีที่จำหน่ายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังแจ้งอีกว่า ภาพรวมผู้ประกอบการและผู้รวบรวม เข้าพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวนมากแล้ว ประกอบกับผู้ประกอบการและผู้รวบรวมรายใหญ่ ที่กรมการค้าภายในประสานมา ยังคงรับซื้อผลผลิตมังคุด เพื่อกระจายออกนอกแหล่งผลิตในปริมาณมากต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการแข่งราคา ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้นมา 5 วันติด ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.2566 เป็นต้นมา ทำให้เกษตรกรมีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก เพราะราคาปรับตัวดีขึ้นมากกว่าปีที่ผ่านอย่างชัดเจน โดยเกรดมันรวมใหญ่ อยู่ที่ 46-61 บาท/กิโลกรัม (กก.) เกรดมันเล็ก อยู่ที่ 24-35 บาท/กก. เกรดผิวกาก-ผิวลาย อยู่ที่ 25-35 บาท/กก. และเกรดตกไซต์-ผิวดำ อยู่ที่ 15-21 บาท/กก.

นายกรนิจกล่าวว่า กรมยังได้ขอให้พาณิชย์จังหวัดภาคใต้ ลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อมังคุดของผู้ประกอบการที่กรมการค้าภายในนำเข้าไปในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ประกอบด้วย 1.จังหวัดนครศรีธรรมราช อ.เมือง อ.ชะอวด อ.ร่อนพิบูลย์ อ.พรหมคีรี อ.จุฬาภรณ์ อ.พรหมคีรี อ.สิชล อ.ท่าศาลา และอ.ลานสกา 2.จังหวัดชุมพร อ.หลังสวน และอ.พะโต๊ะ 3.จังหวัดสุราษฎร์ธานี อ.บ้านนาเดิม 4.จังหวัดนราธิวาส ที่ อ.สุไหงโกลก และ 5.จังหวัดยะลา ที่ อ.เบตง และอ.ธารโต และจะขยายผลเตรียมตรวจสอบที่จังหวัดปัตตานีต่อไป

นอกจากนี้ กรมได้ร่วมกับห้างท้องถิ่นกว่า 30 ห้าง 120 สาขา 23 จังหวัดทุกภาคทั่วประเทศ ประกอบด้วย ภาคเหนือ 16 สาขา (ธนพิริยะ จ.เชียงราย เสรีสรรพสินค้า จ.ลำปาง วินคอสเมติคส์ พีคอสเมติคส์ จรรยา จ.เชียงใหม่) ภาคกลาง 41 สาขา (เหน่งซุปเปอร์ กรุงเทพฯ สหแสงชัย จ.พิจิตร เจดีซุปเปอร์ถูก จ.สระบุรี) ภาคใต้ 28 สาขา (ลีวิวัฒน์ จ.สงขลา ซุปเปอร์เชียร์ จ.ตรัง โอเชี่ยน บิ๊กวัน จ.ชุมพร สหไทย จ.สุราษฎร์ธานี) และภาคอีสาน 35 สาขา (เซฟมาร์ท ซูเปอร์สโตร์ จ.อุดรธานี ทวีกิจ จ.บุรีรัมย์ เกียรติสิน จ.ขอนแก่น สิน 2000 จ.ชัยภูมิ) เริ่ม Kick Off กิจกรรมการจำหน่ายมังคุดใต้ ที่กรมได้ประสานรับซื้อกว่า 1,000 ตัน นำมาจำหน่ายให้พี่น้องประชาชนแล้ว ในราคา 35 บาท โดยจากการติดตามการจำหน่าย พบว่า ประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แห่ซื้อกันคึกคัก โดยประชาชนต่างบอกว่ามังคุดใต้ปีนี้ มีคุณภาพดีมาก รสชาติอร่อย ซึ่งห้างท้องถิ่นคาดว่าจากกระแสการตอบรับเช่นนี้ อาจจะต้องมีการรับซื้อผลผลิตเพิ่มเติมโดยเร็วต่อไป