xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.ขานรับ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกฯ คนที่ 30 หวัง ครม.ใหม่เร่งแก้ปัญหา ศก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ส.อ.ท.ขานรับ "เศรษฐา ทวีสิน" ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 หวังทีม ครม.ใหม่เร่งออกมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยที่เหลือเร่งด่วน ทั้งเร่งเพิ่มกำลังซื้อ แก้ปัญหาส่งออกถดถอย หนี้เสีย SMEs รวมถึงภัยแล้ง หนุนเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทแต่ต้องหมุน ศก.ได้หลายรอบจริง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
เปิดเผยว่า ถือเป็นข่าวดีที่การประชุมรัฐสภาวันที่ 22 ส.ค.ได้โหวตนายกฯ รอบ 3 ซึ่งเห็นชอบเกิน 374 เสียงให้นาย "เศรษฐา ทวีสิน" แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นที่ฟื้นตัวจากทั้งประชาชนและนักลงทุนไทยและต่างชาติ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องการเห็นการฟอร์มทีมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นทีมเศรษฐกิจที่มีความรู้ ความสามารถ ปฏิบัติงานได้จริงมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยเร็ว

“หลังจากนี้จะมีการตั้งทีมเศรษฐกิจ (ครม.) ซึ่งถือว่าเป็นไปตามไทม์ไลน์ที่เอกชนคาดหวังไว้และจะเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจไทยเพราะหลังการเลือกตั้งจบเราก็รอมา 3 เดือนแล้ว จากนี้ก็อยากให้เร่งตั้งทีมเศรษฐกิจโดยเร็วเนื่องจากเศรษฐกิจไทยเองมีการบ้านที่ต้องเร่งแก้อีกมากและพรรคเพื่อไทยเองมีความสามารถพิเศษในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต้องเร่งออกมาในช่วงที่เหลือของปีนี้” นายเกรียงไกรกล่าว

สำหรับมาตรการและนโยบายที่สำคัญที่ต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วนได้แก่ 1. การกระตุ้นกำลังซื้อโดยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ที่เป็นเรื่องแรกสำคัญสุด 2. มาตรการบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนทางการเงินที่ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราที่สูงโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (SMEs) 3. ขอให้ใช้กลไกทูตพาณิชย์ในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ รวมถึงอื่นๆ และการส่งเสริมการค้าที่มุ่งเป้าประเทศที่มีศักยภาพมากขึ้น 4. เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เร่งลงทุนภายใต้โครงการต่างๆ ของภาครัฐที่ยังคงค้างท่อเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือของปีนี้เพิ่มเติมเนื่องจากส่งออกลดลง 5. เร่งหามาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งจากภาวะเอลนีโญที่มีแนวโน้มรุนแรงและยาวนานต่อเนื่องหลายปี เป็นต้น

“นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทของพรรคเพื่อไทย ที่จะให้แก่ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไปนั้น ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี หากสามารถปิดช่องโหว่ให้ผู้ได้รับเงินใช้จ่ายตรงตามวัตถุประสงค์ เพราะจะทำให้มีเงินจำนวน 5 แสนกว่าล้านบาท หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ 4-5 รอบ ซึ่งจะช่วยกระชากเครื่องยนต์เศรษฐกิจให้ติด แต่ทั้งนี้ต้องมีความรัดกุม ไม่ให้เงินหลุดออกไปนอกระบบ หรือหมุนเวียนในระบบเพียงรอบเดียวเหมือนอย่างที่ผ่านๆ มา” นายเกรียงไกรกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น