กรมการค้าภายในจับมือจังหวัดนครศรีธรรมราช นำผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ห้างค้าส่งค้าปลีก ตลาดกลาง ห้างท้องถิ่น ทำสัญญารับซื้อมังคุดจากเกษตรกร ปริมาณ 12,950 ตัน ก่อนนำกระจายผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อช่วยดูดซับผลผลิตและดูและราคาให้กับเกษตรกร
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช ขับเคลื่อนมาตรการ “อมก๋อย โมเดล” โดยได้นำผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ห้างค้าปลีกค้าส่ง ตลาดกลาง และห้างท้องถิ่น เข้ามาทำสัญญารับซื้อมังคุด ปริมาณ 12,950 ตัน จากเกษตรกร แยกเป็นห้างแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี ท็อปซุปเปอร์มาร์เก็ต และเดอะมอล์ล รับซื้อปริมาณ 530 ตัน ตลาดศรีเมืองและตลาดล้านเมือง รับซื้อ 2,000 ตัน และส่วนที่เหลือ ผู้รวบรวม ผู้ส่งออก ห้างท้องถิ่น จะรับซื้อ เพื่อนำไปขายตามช่องทางที่ตัวเองมีอยู่ต่อไป เพื่อช่วยดูแลราคาและสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องเกษตรกรว่ามังคุดคุณภาพจะมีผู้ประกอบการเข้ามารับซื้ออย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กรมยังได้รวบรวมมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเปิดจุดจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร ผ่านรถโมบายพาณิชย์ จำนวนทั้งหมด 100 จุด และต่างจังหวัดอีก 120 จุด รวม 220 จุด ปริมาณ 1,100 ตัน
ขณะเดียวกัน กรมยังได้เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในการจำหน่ายมังคุดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้มอบกล่องใส่ผลไม้ให้กับเกษตรกร โดยปีนี้จัดส่งให้จังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวน 35,000 กล่อง จากที่ตั้งเป้าไว้ 300,000 กล่อง ซึ่งต้องขอบคุณบริษัท ไปรษณีย์ไทย ที่ได้จัดสรรกล่องและจัดส่งให้ ทำให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตผลไม้บรรจุใส่กล่องไปรษณีย์โดยมีสติ๊กเกอร์ให้เรียบร้อย สามารถนำไปส่งที่ไปรษณีย์ได้เลยทั่วประเทศไทย
สำหรับผลผลิตมังคุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีปริมาณ 140,000 ตัน ซึ่งมังคุดรุ่นที่ 1 ออกหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือรุ่นที่ 2 ปริมาณ 42,000 ตัน ซึ่งจากมาตรการที่กรมเข้าไปดูดซับผลผลิต 12,950 ตัน จะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกร และไม่ได้หยุดเพียงเท่านี้ ยังมีการประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยราคาซื้อขายมังคุดล่าสุด เกรดผิวมันอยู่ที่ 50 กว่าบาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีที่แล้วที่ราคาเฉลี่ย 37 บาท เกรดคละอยู่ที่กว่า 30 บาท สูงกว่าปีที่แล้วที่ 20 บาท เกรดรองลงมาอยู่ที่ราคา 23-25 บาท สูงกว่าปีที่แล้วที่ 15-20 บาท
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีพ่อค้าคนกลางเข้าไปกดราคารับซื้อมังคุด จนทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน กรมได้แก้ปัญหาด้วยการประสานผู้ประกอบการทุกกลุ่ม ตั้งแต่ส่งออก ขายในประเทศ และยังเข้าไปซื้อเพื่อเร่งระบายผลผลิตอีก เชื่อว่าจะทำให้เกษตรกรมีทางเลือกในการขายมังคุดเพิ่มขึ้น ส่วนพ่อค้าที่กระทำความผิด กรมจะตรวจสอบและติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบมีการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
“ตอนนี้ผลผลิตมังคุดออกสู่ตลาดแล้วกว่า 60% เหลือผลผลิตอีกไม่มาก ใครที่ต้องการมังคุด ก็ให้รีบเข้าไปซื้อ ส่วนผู้บริโภค ก็ขอให้ช่วยกันซื้อ เห็นมังคุดวางขายที่ไหน ก็เลือกซื้อได้เลย เพราะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว โดยไม่ต้องเป็นมังคุดที่กระทรวงพาณิชย์นำไปขายก็ได้ ที่สำคัญปีนี้ มังคุดใต้คุณภาพดีมาก”นายวัฒนศักย์กล่าว
