รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัด 19-22 ก.ย. สรุปผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของปี 2566 ทั้งความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน ความเป็นกลางทางคาร์บอน ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเล การอัปเกรด FTA กับคู่เจรจา เตรียมหาหารือคู่ค้าสำคัญ พร้อมลงนาม MOU ระหว่างอาเซียนกับ WIPO เปิดตัวระบบฐานข้อมูลออนไลน์ทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน ด้านสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียนขอเข้าเสนอโครงการที่เอกชนต้องการ ก่อนนำผลทั้งหมดชงผู้นำ ก.ย.นี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้รับมอบหมายจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Minister’s Meeting : AEM) ครั้งที่ 55 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 19-22 ส.ค.2566 ณ เมืองเซอมารัง สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อหารือสรุปผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของอาเซียน ในปี 2566 ติดตามความคืบหน้าการเจรจายกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับรัฐมนตรีการค้าของคู่เจรจาของอาเซียน 12 ประเทศ และหารือกับผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ก่อนนำเสนอผลต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียน ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนก.ย.2566
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจ ที่ประชุมเตรียมพิจารณาเอกสารสำคัญ 10 ฉบับ ซึ่งเป็นผลลัพธ์การดำเนินงานในปี 2566 เช่น รายงานการศึกษากรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) แถลงการณ์ผู้นำอาเซียนว่าด้วยการจัดทำกรอบความตกลง DEFA ยุทธศาสตร์อาเซียนเพื่อความเป็นกลางทางคาร์บอน และกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจภาคทะเลของอาเซียน รวมทั้งจะหารือกับรัฐมนตรีการค้าของประเทศคู่เจรจาของอาเซียน ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาและการยกระดับความตกลงการค้าเสรี (FTA) ได้แก่ การเจรจายกระดับการค้าเสรีอาเซียน-จีน การจัดทำแผนปฏิบัติการทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น การเจรจาทบทวนความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน-อินเดีย และการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-แคนาดา พร้อมทั้งจะหารือกับรัฐมนตรีการค้าของสหรัฐฯ รัสเซีย สหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร เพื่อสรุปผลการจัดทำแผนงานความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) จะเข้าร่วมประชุม และจะลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างอาเซียน และ WIPO เพื่อยกระดับความร่วมมือและการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาเชิงพาณิชย์ โดยมีเลขาธิการอาเซียนเป็นผู้ลงนามแทนประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งจะเปิดตัวระบบฐานข้อมูลออนไลน์ทรัพย์สินทางปัญญาอาเซียน ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า การออกแบบอุตสาหกรรม และการยื่นขอรับสิทธิบัตรของประเทศสมาชิกอาเซียน และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) จะนำเสนอโครงการที่เอกชนให้ความสำคัญ เช่น การเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล การอำนวยความสะดวกทางการค้า ความยั่งยืนและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยทั้งหมดนี้ ฝ่ายเลขาธิการอาเซียน จะรวบรวมสรุปผลการประชุมทั้งหมด เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียนในเดือนก.ย.2566 ต่อไป