กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยส่งออก “เครื่องสำอาง” 6 เดือนปี 66 มูลค่า 1,699 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 2% เป็นการส่งออกไปคู่เจรจา FTA ถึง 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 4% คิดเป็นสัดส่วน 83% ของการส่งออกทั้งหมด ตลาดอาเซียนส่งได้มากสุด ตามด้วยจีน เกาหลีใต้ อินเดีย แต่อินเดียขยายตัวแรง 75% ส่วนสินค้าเครื่องสำอางฮอต ตามด้วยสบู่ น้ำหอม ระบุ 14 ประเทศไม่เก็บภาษีนำเข้าจากไทยแล้ว ลุยดันคู่เจรจาลดภาษีให้ไทยเพิ่ม
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้าเครื่องสำอางของไทย พบว่า เป็นหนึ่งในสินค้ายอดนิยม และหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับสถิติการส่งออกที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2564 เติบโต 2% ในปี 2565 เติบโต 7% และในช่วงครึ่งปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องสำอางไปตลาดโลก 1,696 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 2% โดยในจำนวนนี้ เป็นการส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 4% คิดเป็นสัดส่วน 83% ของการส่งออกเครื่องสำอางทั้งหมด
สำหรับประเทศคู่ค้า FTA ที่เป็นตลาดส่งออกเครื่องสำอางสำคัญของไทย เช่น อาเซียน ส่งออกมูลค่า 756 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 1% จีน มูลค่า 153 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 24% เกาหลีใต้ มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 3% และอินเดีย มูลค่า 54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 75%
ส่วนสินค้าส่งออกที่ขยายตัวได้ดี เช่น เครื่องสำอางที่ใช้แต่งหน้าหรือบำรุงผิว มูลค่า 323 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 25% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ จีน เมียนมา และฟิลิปปินส์ สบู่ มูลค่า 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 2% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ ออสเตรเลีย เมียนมา และญี่ปุ่น เครื่องสำอางกลุ่มที่ใช้อาบน้ำหรือดับกลิ่นตัว มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 8% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย และหัวน้ำหอมและน้ำหอม มูลค่า 38 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 230% ตลาดส่งออกสำคัญ คือ จีน อินเดีย และเกาหลีใต้
นางอรมนกล่าวว่า ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างแต้มต่อให้กับสินค้าเครื่องสำอางของไทย จากการลดอุปสรรคกำแพงภาษี ซึ่งปัจจุบันไทยมี FTA กับคู่ค้า 18 ประเทศ โดยคู่ค้า FTA 14 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางจากไทยทุกรายการแล้ว เหลือเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ อินเดีย ชิลี และเปรู ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอางบางรายการ และภายใต้ความตกลง RCEP เกาหลีใต้ยังลดภาษีเพิ่มเติมให้ไทย ได้แก่ สบู่เหลว จะทยอยลดภาษีจนเหลือ 0% ในปี 2579 และสบู่ก้อนและแชมพู จะทยอยลดภาษีจนเหลือ 0% ในปี 2584
“กรมมีแผนที่จะผลักดันให้ประเทศคู่ค้าเปิดตลาดสินค้าเครื่องสำอางเพิ่มเติมให้ไทย ภายใต้การเจรจา FTA ทั้งการทบทวนความตกลงที่มีอยู่แล้ว และที่อยู่ระหว่างการเจรจา เช่น สหภาพยุโรป และแคนาดา เพื่อเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันให้สินค้าไทย โดยกรมเชื่อว่าด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย รวมทั้งข้อได้เปรียบด้านภาษีภายใต้ FTA จะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขยายส่งออกไปตลาดการค้าเสรีได้เพิ่มขึ้น”นางอรมนกล่าว