xs
xsm
sm
md
lg

บางกอกแอร์เวย์ส ชุบชีวิตยูนิฟอร์มเก่าสู่เส้นใยอัปไซคลิ่งเป็น “ผ้ากันเปื้อนในเลานจ์” ตอกย้ำพันธกิจ “Fly NET ZERO CARBON by 2050”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางกอกแอร์เวย์สเดินหน้าพันธกิจ “Fly Net Zero Carbon by 2050” นำชุดยูนิฟอร์มที่ไม่ใช้แล้วมาอัปไซคลิ่งเป็น ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า และกระเป๋าใส่แก้วน้ำ พร้อมตั้งจุด Drop Box ขวดน้ำพลาสติก ภายใน "บูทีคเลานจ์" สุวรรณภูมิ

นางอาริญา ปราสาททองโอสถ กรรมการบริษัทและประธานคณะทำงานส่วนรับผิดชอบต่อสังคม บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เปิดเผยว่า เพื่อเดินหน้ากลยุทธ์ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่ใส่ใจถึงการมีส่วนร่วมรักษ์โลกอย่างยั่งยืน และสอดรับกับพันธกิจของภาคอุตสาหกรรมการบินโลก ในการมุ่งสู่เป้าหมาย “Fly Net Zero Carbon” ภายในปี 2050 สายการบินฯ จึงได้ริเริ่มไอเดียเพื่อการจัดการทรัพยากรอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการรณรงค์ให้พนักงานนำชุดยูนิฟอร์มที่มีตราสัญลักษณ์บริษัทฯ ที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาเข้าสู่กระบวนการอัปไซคลิ่ง (Upcycling) พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ไม่ก่อให้เกิดของเสียตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สามารถกลับมาใช้ประโยชน์ในกระบวนการธุรกิจ


อาทิ ผ้ากันเปื้อนผืนใหม่ ที่เป็นรุ่น Limited Edition จากเส้นใยรีไซเคิล สำหรับพนักงานที่ปฏิบัติงานให้บริการภายในห้องรับรองผู้โดยสารใช้สวมใส่ ซึ่งได้ดำเนินการภายใต้แคมเปญ “Love Earth, Save Earth” เพื่อตอกย้ำถึงนโยบายด้านการจัดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ


“สายการบินบางกอกแอร์เวย์สยังคงมุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงความสุขในทุกมิติตามแนวความคิด “Connect Your Happiness” ซึ่งการดำเนินงานด้านกระบวนการอัปไซคลิ่งในครั้งนี้ได้ร่วมมือกับ บริษัท เซอร์คูลาร์ อินดัสทรี้ จำกัด โดยนำเอาชุดยูนิฟอร์มที่ไม่ได้ใช้แล้วของบางกอกแอร์เวย์ส จำนวน 150 กิโลกรัม มาคัดแยกเฉดสีและผ่านเข้าสู่กระบวนการทำเป็นผ้าผืนใหม่โดยไม่ผ่านการฟอกย้อม เพื่อหลีกเลี่ยงการส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนช่วยลดปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากการทำลายชุดยูนิฟอร์มด้วยวิธีแบบเดิม เปลี่ยนเป็นการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ที่มีคุณค่า ด้วยนวัตกรรมการผลิตที่ไม่ทำร้ายโลก

ได้แก่ ผ้ากันเปื้อน กระเป๋าผ้า และกระเป๋าใส่แก้วน้ำ จำนวนรวม 300 ชุด ซึ่งคิดเป็นปริมาณที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เท่ากับ 307.44 กิโลกรัม และช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ราว 1,826 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการมีส่วนร่วมสำหรับผู้โดยสารให้ได้ตระหนักถึงการจัดการขยะอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทาง ผ่านการจัดตั้งจุด Drop Box สำหรับรับคืนขวดน้ำดื่มพลาสติก PET ไร้ฉลากภายในห้องรับรองผู้โดยสารบูทีคเลานจ์ ซึ่งจะส่งต่อให้กับ “เซอร์คูลาร์ อินดัสทรี้” เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการแปลงเป็นเส้นใยพลาสติกสำหรับการผลิตเสื้อผ้าโดยจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับขยะพลาสติกและใช้ทรัพยากรของโลกให้เกิดประโยชน์สูงสุดไปพร้อมกัน”


และเพื่อสานต่อโครงการ “แยกขยะได้ประโยชน์” บางกอกแอร์เวย์สยังได้เตรียมตั้งถังคัดแยกขยะภายในห้องรับรองผู้โดยสาร (บูทีคเลานจ์) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในช่วงเดือนกันยายน 2566 เป็นต้นไป โดยจะต่อยอดการตั้งถังคัดแยกภายใต้โครงการ ณ สนามบินภายใต้การดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายการลดปริมาณขยะสู่บ่อฝังกลบในอนาคตต่อไป” นางอาริญากล่าวเพิ่มเติม


กำลังโหลดความคิดเห็น