นายกรัฐมนตรีเตรียมตรวจเยี่ยม ความพร้อมและติดตามความคืบหน้าการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) เตรียมเปิดให้บริการในรูปแบบ Soft opening เดือนกันยายนนี้ รองรับรูปแบบการเดินทางวิถีใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ 7 ส.ค. เวลา 14.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง คมนาคม และรักษาการราชการแทนรัฐมนตรว่าการกระทรวงคมนาคม ตรวจความพร้อมการเปิดให้บริการอาคารเทียบ เครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยนายกรัฐมนตรี จะได้ตรวจความพร้อมตามเส้นทางผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศเพื่อเดินทางไป ยังอาคาร SAT-1 โดยใช้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover: APM)
จากนั้นจะได้ตรวจ เยี่ยมความพร้อมของสิ่งอํานวยความสะดวกตลอดจนระบบต่างๆ ภายในอาคาร SAT-1 และรับฟังความคบื หน้าการ ดําเนินการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3
สําหรับ อาคาร SAT-1 เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 สถาปัตยกรรมของตัวอาคารได้ออกแบบ ให้เข้ากับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ซึ่งใช้เป็นระบบ Modular ที่ก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุ ที่ดูแลรักษาได้ง่าย อีกทั้งยังคํานึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Design) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน โดยอาคาร SAT-1 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 216,000 ตารางเมตร ตัวอาคารมีความสูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
ชั้น B2 เป็นพื้นที่สําหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover Station: APM Station)
ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบ
ชั้น G เป็นพื้นที่สําหรับระบบสายพานลําเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สํานักงาน
ชั้น 2 เป็นพื้นที่สําหรับผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่สําหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน
ชั้น 3 เป็นพื้นที่สําหรับผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่พักคอยสําหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีร้านค้าตลอดแนวทางเดิน
และ ชั้น 4 เป็นพื้นที่ สําหรับห้องรับรองสายการบิน อาคาร SAT - 1 มีหลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยาน ขนาด Code F ได้ 8 หลุมจอด (เช่น A380 และ B747-8 เป็นต้น)
และอากาศยานขนาด Code E (เช่น B747 และ A340 เป็นต้น) ได้ 20 หลุมจอด
นอกจากนี้อาคาร SAT-1 เชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก โดยให้บริการรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้า ระบบล้อยางแบบไร้คนขับในการรับ - ส่งผู้โดยสาร ใช้ระยะเวลาในการโดยสารรวมถึงระยะเวลาที่ผู้โดยสารรอบริการที่ สถานีประมาณ 3 นาทีและสามารถรองรบั ผูเโดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน
สําหรับการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่ง เป็นทางวิ่งที่มีความยาว 4,000 เมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น ขณะน้ีมีความคืบหน้าในการก่อสรา้งไปแล้ว กว่า 73% คาดว่าจะดําเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2566 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนนกรกฎาคม 2567 ซึ่ง จะทําให้ มีประสิทธิภาพในการรองรับปริมารการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบินต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ ภายหลัง การตรวจเยี่ยมฯ ยังนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะฯ จะได้แถลงข่าวสรุปผลการตรวจความพร้อมการ เปิดให้บริการอาคาร SAT-1 ซึ่งได้กําหนดเปิดให้บริการแบบ Soft opening ในเดือนกันยายน 2566 นี้
ทสภ. พร้อมให้บริการอาคาร SAT-1 ควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) รองรับ รูปแบบการเดินทางวิถีใหม่(Transport New Normal) โดยให้ความสําคัญในเรื่องระดับการให้บริการ (Level of Service) เพื่อให้โดยสารได้รับความสะได้สบาย ปลอดภัย ประทับใจเมื่อใช้บริการและเมื่ออาคาร SAT-1 เปิด ให้บริการเต็มรูปแบบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน
โดยนอกจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของ การท่าฯ เป็นสนามบินชั้นนํา ระดับโลกอย่างยั่งยืน