กรมการค้าภายในนัดปั๊มน้ำมันทุกรายหารือสัปดาห์หน้า กำชับตรวจสอบหัวจ่ายและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพปกติ หลังเจอดรามาเติมน้ำมันไม่เต็มลิตร พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มทั้งประเทศซ้ำ ยันราคาข้าวถุงยังเป็นปกติ หลังเจอข่าวอินเดียห้ามส่งออก ภัยแล้งทำผลผลิตลด ส่วนมัน ข้าวโพด ปาล์ม ราคายังดี หมูเฉลี่ย 130-135 บาท ไก่ ผัก ลงต่อเนื่อง ผลไม้ดีขึ้น ทั้งทุเรียน มังคุด สับปะรด มะม่วงมรกต ส้มโอ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า กรมจะเชิญผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันในประเทศทุกราย เช่น PTT Station , บางจาก , PT เอสโซ่ และเชลล์ เป็นต้น มาหารือ เพื่อกำชับให้ผู้ให้บริการทุกราย ตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันและอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพปกติ ห้ามใช้หัวจ่ายที่ชำรุด หลังจากเกิดสถานการณ์ผู้บริโภคเข้าไปเติมน้ำมัน แล้วได้น้ำมันไม่เต็มลิตรในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรมจากการเติมน้ำมัน
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สำนักงานกลางชั่งตวงวัดและสำนักงานสาขาชั่งตวงวัด จัดส่งเจ้าหน้าออกตรวจสอบปั๊มน้ำมันทั่วประเทศให้เข้มงวดขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการเข้าไปใช้บริการเติมน้ำมัน โดยหากตรวจสอบพบปั๊มใดใช้หัวจ่ายไม่ถูกต้อง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับ 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งผลการตรวจสอบในช่วง 7 เดือนปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) ตรวจสอบปั๊มทั่วประเทศ 7,827 ครั้ง 172,156 หัวจ่าย พบว่าถูกต้อง 171,354 หัวจ่าย พบผิด 802 หัวจ่าย และได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับสถานีบริการน้ำมันแล้ว จำนวน 45 ราย
นายวัฒนศักย์กล่าวว่า กรมยังได้ติดตามสถานการณ์ราคาข้าวถุง พบว่า ยังเป็นปกติ แม้ช่วงนี้จะมีกระแสข่าวเกี่ยวกับราคาข้าว ทั้งเรื่องอินเดียห้ามส่งออกข้าวขาว และสถานการณ์ภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตข้าวลดลง โดยราคาข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัม (กก.) เฉลี่ยอยู่ที่ 210 บาท ข้าวขาว 100% เฉลี่ย 117 บาท แต่หลายห้างมีการจัดโปรโมชันลดราคา เช่น ข้าวหอมมะลิ ถุงละ 165 บาท ในบางจังหวัด 157-159 บาท ส่วนราคาข้าวในประเทศ ก็ยังอยู่ในทิศทางที่ดี ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกรมจะติดตามใกล้ชิด แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อราคาข้าวถุงในประเทศ
สำหรับราคามันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 3.28 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 10.65 บาท ราคาโรงงาน 11.29 บาท ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 5.75 บาท สูงสุด 6.20 บาท น้ำมันปาล์มขวด 45.72 บาท หมูเนื้อแดง 130-135 บาท ไก่น่องติดสะโพก 80-90 บาท ไก่เนื้ออก 75-85 บาท ผักส่วนใหญ่ลดลง เช่น คะน้าเฉลี่ย 37 บาท ถั่วฝักยาว 44.60 บาท กะหล่ำปลี 31.80 บาท ต้นหอม 78.50 บาท ผักชี 98 บาท มะนาว เบอร์ 1-2 เฉลี่ย 2.95 บาท
ส่วนผลไม้ ขณะนี้ทุเรียนภาคใต้ เกรด AB ราคาเฉลี่ย กก.ละ 160-165 บาท เกรดรอง 95-100 บาท บางจุด 110 บาท มังคุด เกรดมันรวม เฉลี่ย กก.ละ 85-100 บาท เกรดคละ 50-80 บาท สับปะรดเชียงราย กก.ละ 12-14 บาท มะม่วงเขียวมรกตลำพูน เบอร์บน กก.ละ 12-13 บาท เบอร์ล่าง กก.ละ 7-8 บาท สัมโอทองดีเชียงราย เกรดสวย กก.ละ 14-15 บาท เกรดคละ 10-11 บาท
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์ปุ๋ยเคมีสัปดาห์นี้ ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยลดลงเฉลี่ย 24-51% ส่วนยาป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ลดลง 24-32% ซึ่งกรมจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะขณะนี้แนวโน้มราคาพลังงานเริ่มปรับตัวสูงขึ้น และมีความต้องการใช้ปุ๋ยเพิ่มขึ้นช่วงเดือนก.ย.-พ.ย. แต่ในเรื่องปริมาณ ยืนยันว่ามีเพียงพอ ส่วนอาหารสัตว์ ยังไม่มีการอนุมัติให้ผู้ผลิตรายใดขึ้นราคา และแนวโน้มราคาวัตถุดิบหลายตัว เริ่มปรับลดลง ทั้งข้าวโพดและถั่วเหลือง
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้เตรียมมาตรการรับมือผลไม้มังคุดภาคใต้ในส่วนของ 4 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช ที่ขณะนี้ผลผลิตออกแล้ว 50-55% ปัตตานี ออก 3% ยะลา ออก 15% และนราธิวาส ยังไม่ออก โดยจะเข้าไปรับซื้อ เพื่อเร่งระบายผลผลิตออกจากแหล่งผลิตโดยเร็ว ทั้งระบายผ่านจุดจำหน่ายในหมู่บ้านและคอนโดมิเนียม ห้างท้องถิ่น 600 สาขาทั่วประเทศ และโมบายพาณิชย์
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง เป้าหมาย 5,000 ตัน ขณะนี้ได้ซื้อแล้ว 780 ตัน คิดเป็น 16% ใน 9 จังหวัด ทั้งภาคกลาง ตะวันออก และใต้ ทำให้ราคากุ้งปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดขนาด 7-10 ตัว/กก. เพิ่มเป็น 120 บาท สูงสุด 125 บาท และจากนี้จะเร่งรับซื้อต่อไป โดยโครงการจะสิ้นสุดในเดือนก.ย.นี้