xs
xsm
sm
md
lg

“ฟู้ดสตาร์”ซุ่มลุยตลาดลูกอม-สแน็ก “ดีโด้”เร่งขยายตปท.เจาะมิดเดิ้ลอีสต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ผู้จัดการรายวัน 360 – “ฟู้ดสตาร์” ซุ่มลุยขยายพอร์ตโฟลิโอกลุ่มสุขภาพ เล็งเป้าที่ตลาดลูกอมและสแน็ก คาดปลายปีนี้เห็นตัวลูกอมได้ ส่วนเรือธงหลักอย่าง น้ำผลไม้ “ดีโด้” เปิดแผนรุกทั้งในและต่างประเทศเต็มตัว ล่าสุดเปิดตัว พรีเซ็นเตอร์คู่ “เบิ้ล-ปทุมราช” และ “โจอี้-ภูวศิษฐ์” เจาะตลาดอีสานเป็นหลัก พร้อมเร่งเครื่องขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น ดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเป็น 50% ภานในอีก 3 ปี

นางสาวจันทรา พงศ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดสตาร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้พร้อมดื่ม ยี่ห้อ ดีโด้ เปิดเผยว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายตลาดผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเพื่อสุขภาพ ทั้งในรูปแบบของเครื่องดื่ม สแน็ก ต่างๆ เพื่อตอบรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ัหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มพอร์ตโฟลิโอสินค้าของบริษัทให้มีความหลากหลาย เพื่อการเติบโตทั้งรายได้และโตแบบยั่งยืนด้วย

โดยบริษัทใช้เวลาในการศึกษาภาพรวมของตลาด การเก็บข้อมูล รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดด้วย ซึ่งตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพนี้ค่อนข้างที่จะใหญ่และกว้างมาก อยู่ที่บริษัทฯว่าจะเจาะเข้าไปในกลุ่มใด เพราะบางกลุ่มก็มีการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงแต่เป็นตลาดที่มีมูลค่ามากเติบโตดี แต่ก็มีโอกาส บางกลุ่มตลาดแข่งขันไม่รุนแรงแต่ว่ามูลค่าตลาดยังน้อยอยู่

เบื้องต้นนี้บริษัทฯมองไปที่ตลาดลูกอม ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าได้ภายในปีนี้ และอีกตัวคือ สแน็ก คาดว่าจะเปิดตัวเข้าสู่ตลาดได้ในปีหน้า ส่วนแบรนด์ที่จะใช้นั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมว่าจะใช้แบรนด์อะไรดี
 

ส่วนสินค้าหลักที่เป็นเรือธงของบริษัทฯอย่าง น้ำดื่มผลไม้ดีโด้ยังคงมีแผนการตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยแผนงานตลาดในประเทศปี2566นี้วางเป้าหมายที่จะขยายตลาดต่างจังหวัดให้มากขึ้น ซึ่งได้ใช้กลยุทธ์พรีเซ็นเตอร์เข้ามาทำตลาดด้วย โดยแต่งตั้่งให้ “เบิ้ล-ปทุมราช” และ “โจอี้-ภูวศิษฐ์ อนันต์พรสิีริ” มาเป็น พรีเซ็นเตอร์ดีโด้ เพื่อจุดประสงค์ในการรุกตลาดภาคอีสานเป็นหลัก เนื่องจากอีสานเป็นตลาดที่ใหญ่มีประชากรมาก พื้นที่กว้างขวาง ยังมีโอกาสในการขายได้อีกมาก


นางสาวจันทรา กล่าวด้วยว่า ภาพรวมตลาดในช่วงครึ่งปีแรก2566ที่ผ่านมา ถือได้ว่าตลาดรวมน้ำผลไม้ไม่ถึง 100% หรือกลุ่มอีโคโนมี มีการเติบโตในทิศทางที่ีดีขึ้น เป็นผลมาจากการที่มีการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจมีความเคลื่อนไหว กำลังซื้อเริ่มกระเตื้องขึ้น และกลุ่มรากหญ้าก็ยังคงนิยมดื่มน้ำผลไม้กลุ่มอีโคโนมีเป็นหลัก เพราะราคาไม่แพง โดยยอดขายรวมบริษัทฯครึ่งปีแรกนี้มีการเติบโตมากถึง 26%

ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ก็มีแผนที่จะขยายตลาดให้มากขึ้นเช่นกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ หรือประมาณปี 2568 จะต้องมีสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศในทุกโมเดลที่ทำตลาด รวมกัน 50% ของรายได้รวม ซึ่งจะทำให้รายได้เท่ากันระหว่างในไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างความสมดุลย์ทาธุรกิจ จากปัจจุบันที่ทำรายได้จากตลาดต่างประเทศสัดส่วนเพียง 30% เท่านั้น

“บริษัทฯมองว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก เนื่องจากตลาดต่างประเทศนั้นใหญ่กว่าในไทยแน่นอน เพราะมีหลายประเทศที่มีศักยภาพที่เรายังไม่ได้เข้าไปเจาะตลาด หรือแม้แต่ตลาดที่ทำอยู่เดิมก็ยังมีโอกาสในการขายได้อีกมาก ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เรามีการขยายตลาดดีโด้ในหลายแห่ง และผลตอบรับค่อนข้างดีตลาดให้การยอมรับอย่างมากซึ่งนอกเหนือจากตัวหลักอย่างดีโด้ แล้ว ก็มีแผนที่จะนำสินค้าใหม่เข้าไปทำตลาดด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอ ซึ่่งการทำตลาดดีโด้ที่ผ่านมาตลาดให้การยอมรับอย่างดี”

โดยตลาดใหม่ๆที่น่าสนใจในขณะนี้เช่น ตะวันออกกลาง เช่น ซาอุดิอาระเบีย ที่เริ่มทำตลาดบ้างแล้ว รวมทั้งตลาดในจีนด้วย เช่่นเดียวกับในอเมริกาที่เริ่มบ้างแล้ว พวกนี้ล้วนแต่เป็นตลาดใหม่ที่น่าจับตามอง ต่อจากนี้ก็จะขยายไปยังตลาดอินเดีย ฟิลิปินส์ เป็นต้น
ทั้งนี้ปีนี้บริษัทฯวางเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 4,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักยังคงเป็นในประเทศ 70% และต่างประเทศ 30% ตลาดหลักคือ ซีแอลเอ็มวี


กำลังโหลดความคิดเห็น