“สแกน อินเตอร์” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 30-40% จากปีก่อนมีรายได้ 1,832 ล้านบาทมาจากการลุยขายก๊าซฯ ให้ลูกค้าอุตสาหกรรมและลูกค้าภูมิภาคเพิ่ม พร้อมเร่งติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป
นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้น 30-40% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1,832 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 342.69 ล้านบาท มาจากปริมาณการขายก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับอุตสาหกรรม (iCNG) และก๊าซธรรมชาติเหลว (iLNG) ไปยังลูกค้าภูมิภาคต่างๆ เพิ่มขึ้น จากปีที่แล้วที่มีสัญญารับมอบอยู่ที่ 200 ตันต่อวัน ปัจจุบันอยู่ที่ 700 ตันต่อวัน และคาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ตันต่อวัน ทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันสัญญาขนส่งก๊าซ 2 ปี มูลค่า 500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสัญญาส่งมอบก๊าซฯ ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะพนักงานขับรถมากกว่า 100 ราย ส่วนธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ที่มีทั้งสัญญารับเหมาก่อสร้าง ส่วนรูปแบบโครงการซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) จะดำเนินงานภายใต้บริษัท สแกนแอดวานซ์ เพาเวอร์ จำกัด (SAP) ซึ่งเป็นบริษัทลูก ปัจจุบันจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ไปแล้วรวม 34 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 25 เมกะวัตต์ คาดว่าภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะขยายเพิ่มเป็น 55 เมกะวัตต์
บริษัทมีแผนจะนำ SAP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยคาดหวังเงินระดมทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท แต่งตั้งบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) โดย SAP อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ปัจจุบันพบว่ายอดติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปจากลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น หลังจากค่าไฟที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
สำหรับความคืบหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มมินบู ที่เมียนมา กำลังการผลิตติดตั้งรวม 220 เมกกะวัตต์ โดยเฟสแรก 50 เมกะวัตต์ จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) และรับรู้รายได้แล้วเมื่อปี 2562 เฉลี่ยเดือนละ 7 แสนเหรียญสหรัฐ ส่วนเฟสที่สองอีก 50 เมกะวัตต์ เตรียมก่อสร้างปลายปีนี้ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ตามแผนจะ COD ภายในเดือน มี.ค. 2567 ส่วนเฟส 3 กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ และเฟส 4 อีก 70 เมกะวัตต์ จะดำเนินการก่อสร้างตามลำดับต่อไป หากครบทั้ง 4 เฟส จะทำให้บริษัทรับรู้รายได้เพิ่มเป็น 3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน
