“กบน.” เตรียมหารือสัปดาห์หน้าเพื่อเตรียมแนวทางใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงดูแลเสถียรภาพราคาดีเซลหลังสิ้นสุดมาตรการลดภาษีฯดีเซล 20 ก.ค.นี้ รับสถานะกองทุนฯ เริ่มดีขึ้นและยังมีกรอบวงเงินกู้ที่เหลือเพื่อดูแลแต่จำเป็นต้องคำนึงถึงภาพรวมระยะยาว ลั่นจะบริหารไม่ให้กระทบประชาชน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบแนวทางลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 5 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุด 20 ก.ค.นี้และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาดูแลเสถียรภาพราคาดีเซลแทนนั้น คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) โดยทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) คงจะนำเสนอ Scenario ต่างๆ ในการดูแลราคาดีเซล อย่างไรก็ตาม นโยบายของกระทรวงพลังงานมุ่งดูแลประชาชนเป็นสำคัญโดยพยายามจะตรึงราคาไว้ให้มากที่สุดในเบื้องต้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพ
“ขณะนี้ราคาดีเซลอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ซึ่งหากดูจากเงินที่เก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของดีเซลเฉลี่ยจะอยู่ที่ราว 4 บาทกว่าต่อลิตร ดังนั้นหากใกล้สิ้นสุดมาตรการลดภาษีฯ ดีเซล 20 ก.ค. ต้องดูว่าราคาดีเซลตลาดโลกจะเป็นอย่างไร หากลดลงก็อาจจะเก็บได้เกิน 5 บาทต่อลิตรก็สามารถลดเก็บเงินดังกล่าวไปชดเชยภาษีฯ ได้ทันที หรือหากดีเซลโลกขึ้นเล็กน้อยก็อาจใช้วิธีชดเชยราคาเพิ่มเพื่อตรึงราคาดีเซล แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ กบน.ว่าจะมองในระยะยาวในการบริหารอย่างไรเป็นสำคัญ” แหล่งข่าวกล่าว
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 9 ก.ค.มีสถานะติดลบ 52,270 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 6,598 ล้านบาท บัญชี LPG ติดลบ 45,672 ล้านบาท โดยขณะนี้รายได้จากน้ำมันและ LPG เริ่มมีการจัดเก็บเข้ากองทุนฯ เป็นบวกหลังราคาอ่อนตัวลงทำให้หนี้น้ำมันเหลือต่ำลง แต่บัญชี LPG ยังคงมีหนี้สูงอยู่การบริหารต้องมองภาพรวม ขณะเดียวกันกองทุนฯ ยังมีกรอบวงเงินกู้ตามมติ ครม.อีกราว 1.1 แสนล้านบาทที่ยังคงเหลืออีกราว 50% ในการบริหาร อย่างไรก็ตาม แนวทางบริหารคงจะต้องคำนึงถึงราคาพลังงานในช่วงปลายปีที่ปกติราคาจะสูงขึ้นด้วย