กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยผลงานนำคณะผู้แทนการค้าไทยบุกเจาะตลาดชิลี เปิดเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ ขายได้กว่า 60 ล้านบาท พร้อมลุยหารือผู้ซื้อ ผู้นำเข้า ทั้งยานยนต์และชิ้นส่วน อาหาร สภาอุตสาหกรรม หอการค้า เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 2-5 กรกฎาคม 2566 กรมฯ ได้นำผู้แทนภาคเอกชนไทย ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป เดินทางเยือนกรุงชันติอาโก ประเทศชิลี และบราซิล เพื่อขยายตลาดส่งออก ตามกลยุทธ์ในการบุกเจาะตลาดเป็นรายภูมิภาคและรายคลัสเตอร์ ที่กรมฯ ได้ดำเนินการร่วมกับภาคเอกชน ในการผลักดันการส่งออกสินค้าของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้
ทั้งนี้ ในช่วงการเดินทาง กรมฯ ได้จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 18 บริษัท และผู้นำเข้าชิลี จำนวน 62 บริษัท ในกลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง และอาหารแปรรูป ผลการเจรจาเกิดการจับคู่ธุรกิจ จำนวน 155 คู่ และมูลค่าการเจรจาการค้าในงาน จำนวน 154,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,544,000 บาท และผู้นำเข้าคาดการณ์ว่าจะนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นภายใน 1 ปี มูลค่าประมาณ 54 ล้านบาท รวมมูลค่าการเจรจาการค้า 60 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้หารือกับห้าง Jumbo ซึ่งนำเข้าซอสปรุงรส น้ำมะพร้าว กะทิ และมีการจ้างบริษัทไทยผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Exotic ของห้าง โดยห้างมี 69 สาขา มียอดขาย 22-23 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน มีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมอาหารไทย Instore-promotion ร่วมกับ สคต.ซันติอาโกในเดือนสิงหาคม และมีแผนจะขยายการนำเข้าสินค้าเบียร์จากไทยเข้ามาทดลองตลาดในช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ โดยห้างยังต้องการหาสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดและสนใจเข้าเยี่ยมชมและเจรจาการค้าในงาน Thaifex ช่วงพฤษภาคมปีหน้า
ส่วนการหารือกับผู้นำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น บริษัท DERCO S.A. สนใจนำเข้าอะไหล่ (Spare Part) จากประเทศไทย เนื่องจากบริษัทต้องการเพิ่มแหล่งนำเข้าจากหลายประเทศเพื่อลดความเสี่ยงที่จะต้องเผชิญผลกระทบจาก supply chain disruption เหมือนช่วงวิกฤติโควิด โดยให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีคุณภาพสูงที่สามารถจัดส่งสินค้าได้ตามกำหนดมากกว่าปัจจัยด้านราคา บริษัท IMPORTADORA BICIMOTO LIMITADA นำเข้า plastic bumper จากไทย และมองว่าในปีหน้าเศรษฐกิจชิลีจะขยายตัว 3% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการนำเข้าสินค้าจากไทยมากขึ้น และที่ชิลีมีกฎระเบียบให้ผู้ใช้รถต้องนำรถเข้าตรวจสภาพเพื่อเปลี่ยนอะไหล่ที่มีการชำรุดทุกๆ 1 ปี ทำให้ตลาดมีความต้องการอะไหล่อย่างต่อเนื่อง บริษัท IMPORTADORA CUATRO RUEDAS LIMITADA มองว่าไทยเป็นผู้ส่งออกรถปิ๊กอัพขนาดกลางที่สำคัญของโลก โดยบริษัทมีความต้องการนำเข้าชิ้นส่วนประเภทคลัทช์และกันชนจากไทยรวมถึงเป็นผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ Aeroklas ของไทย ต่างมีความสนใจที่จะเข้าชมและเจรจาการค้าในงาน TAPA2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2–5 เมษายน 2568
สำหรับการหารือกับบริษัทผู้นำเข้าสินค้าอาหาร ได้แก่ บริษัท ICB S.A. มีความสนใจนำเข้าสินค้าหลายรายการจากไทย เช่น ข้าวโพดอ่อนกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง ผลไม้อบแห้ง เห็ดแชมปิยองกระป๋อง ทูน่ากระป๋อง ซาร์ดีนกระป๋อง และเส้นก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น รวมทั้งได้หารือกับบริษัท VISOURCES ซึ่งเป็นผู้นำเข้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ โดยบริษัทมีแผนจะเดินทางไปพบคู่ค้าที่ประเทศไทยในเดือนตุลาคมและจะนำเข้าวัสดุก่อสร้างจำนวน 500 ตู้คอนเทนเนอร์ และมีความสนใจที่จะเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไม้อัดของไทยในชิลี
ขณะที่การหารือกับ บริษัท Sigdo Koppers Group ที่ประกอบธุรกิจเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดในชิลี ปัจจุบันมีการลงทุนในไทยที่สระบุรี เป็นโรงงานผลิตลูกเหล็ก ลูกบดโลหะคุณภาพสูง ที่ใช้ในการถลุงแร่ และอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ มองว่าไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุนและการกระจายสินค้าของชิลีในภูมิภาคเอเชีย มีจุดแข็งในด้านการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ และยังได้หารือกับผู้บริหารของสภาอุตสาหกรรม SOFOFA เชื่อมั่นว่าการค้าไทย-ชิลี ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากเนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายสินค้าระหว่างกันยังกระจุกตัวอยู่เพียงไม่กี่รายการ รวมถึงการลงทุนระหว่างกันที่ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก โดยทั้ง 2 หน่วยงานมีความยินดีให้ความร่วมมือกับกรมฯ ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างกัน เช่น การจัดคณะผู้แทนการค้า การเจรจาการค้า การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เป็นต้น และหารือกับหอการค้าแห่งกรุงซันติอาโก (Santiago Chamber of Commerce) ถึงการเชื่อมโยงการค้าผ่านช่องทาง e-commerce ที่ขยายตัวสูงในชิลี โดยให้ mercado, libre ซึ่งเป็น platform ที่ได้รับความนิยม เป็นพันธมิตรกับ Thaitrade.com
ทั้งนี้ ในปี 2565 มูลค่าการค้าไทย-ชิลี มีมูลค่ารวม 1,289.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยส่งออกไปชิลีมูลค่า 531.03 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสินค้าหลักได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องซักผ้าและเครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง