xs
xsm
sm
md
lg

“สตาร์บัคส์” โหมเปิดไดร์ฟทรู ดันเป้ารวม800แห่งในปี2573

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 – “สตาร์บัคส์” เดินหน้าลงทุนไทยต่อเนื่อง ยกเป็นตลาดกลยุทธ์ในเซาท์อีสต์เอเซีย ปีนี้ลุยเพิ่มอีก 30 สาขาใหม่ เน้นไดร์ฟทรู สู่เป้า 800 สาขาในปี 2573 พร้อมผุดร้านกาแฟเพื่อชุมชนเป็น 8 แห่ง


นางสาวเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์บัคส์ (ประเทศไทย ) จำกัด เปิดเผยว่า ปี2566นี้บริษัทฯยังคงมีแผนที่จะขยายสาขาร้านสตาร์บัคส์ (Starbucks)อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประเทศไทยเป็นตลาดกลยุทธ์หลักสำคัญของสตาร์บัคส์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และยังมั่นใจในเศรษฐกิจระยะยาวของไทย เพราะสตาร์บัคส์มองการลงทุนระยะยาว โดยปีนี้วางแผนจะเปิดใหม่ประมาณ30 สาขา ซึ่งก็เป็นอัตราปกติในการขยายสาขาประมาณนี้่อยู่แล้ว โดยคาดว่าสิ้นปีนี้จะเปิดครบเป็น 480 สาขา เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายระยะยาวภายในปี 2573 ที่จะต้องมีร้านสตาร์บัคส์ในไทยให้ครบ 800 สาขา หรือเพิ่มแผน2เท่าจากปีนี้ หลังจากที่ดำเนินธุรกิจในไทยมาครบ 25 ปีแล้ว โดยมีพนักงานมากกว่า 4,300 คน ให้บริการลูกค้ามากกว่า 800,000 คนต่อสัปดาห์

 อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเน้นไปที่การเปิดโมเดล ไดร์ฟทรูมากขึ้นเป็นพิเศษรวมทั้งการบริการที่เป็นแบบออนไลน์เช่นการขายผ่านช้อปปี้และลาซาด้าและบริการแคชเลสมากขึ้น เนื่องจากสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความคล่องตัว ความสะดวกสบาย แม้ว่าการระบาดของโควิด-19 จะเบาบางลงแล้วก็ตาม อีกทั้งผู้คนจะเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น จึงทำให้สาขาไดร์ฟทรูตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดี ส่วนบริการแคชเลสก็ตอบโจทย์ความสะดวกสบายและการหลีกเลี่ยงการสัมผัสได้ดีเช่นกัน 


ปัจจุบัน บริษัทฯมีสตาร์บัคส์ในไทยประมาณ 465 สาขา มี 3 โมเดลหลักคือ ร้านนั่งในร้านหรือร้านมาตรฐานทั่วไป ประมาณ396 สาขา, ร้านแบบไดร์ฟทรูประมาณ 56 สาขา และร้านแบบรีเสิร์ฟ ประมาณ13 สาขา อย่างไรก็ตามในจำนวนดังกล่าวนี้มีบริการแคชเลสแล้ว 106 สาขา และมีร้านกรีนสโตร์ 3 สาขา 

นอกจากนั้นบริษัทฯมีแผนที่จะขยายสาขาสตาร์บัคส์ในรูปแบบร้านกาแฟเพื่อชุมชน ( Starbucks Community Store) มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีร้านกาแฟเพื่อชุมชนในไทยจำนวน 8 สาขา ภายในปี2573 ปัจจุบันนไทยเปิดแล้ว 2 สาขา ซึ่งจะมีทั้งการเปิดใหม่โดยเฉพาะ และปรับจากร้านเดิมเป็นร้านเพื่อชุมชน ขณะที่สตาร์บัคส์ทั่วโลกตั้งเป้าไว้ที่ 1,000 สาขาภายในปี 2573 สตาร์บัคส์ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือทำงานร่วมกับเรา ตั้งแต่ชุมชนชาวไร่ผู้ปลูกกาแฟ ไปจนถึงเพื่อนบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงร้านสาขา

 โดยเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกที่หลังสวน กรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ.2556 สตาร์บัคส์ ประเทศไทย ได้มอบเงินสนับสนุนไปแล้วกว่า 17 ล้านบาท ให้แก่ชุมชนไร่กาแฟในภาคเหนือของประเทศไทย ผ่านมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (ITDF) โดยทางมูลนิธิฯ ได้นำเงินไปใช้กับโครงการต่างๆ เช่น น้ำดื่มสะอาด โรงเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวก การฝึกอบรมชาวบ้านและผู้ประสานงานด้านการเพาะปลูกกาแฟ เพื่อสนับสนุนการควบคุมคุณภาพกาแฟ และหลักปฏิบัติ C.A.F.E. ในกลุ่มชาวไร่กาแฟ 


ทั้งนี้ การสนับสนุนนี้เกิดจากการดำเนินธุรกิจแบบแบ่งปันรายได้ ซึ่งมาจาก 5% ของยอดขายเมล็ดกาแฟม่วนใจ๋ เบลนด์ และ 10 บาทจากการจำหน่ายเครื่องดื่มสตาร์บัคส์ทุกแก้วที่จำหน่ายในร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกนี้ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน (Starbucks Community Store) ได้รับการออกแบบมาเพื่อเป็นร้านสาขาที่สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้พาร์ทเนอร์ สามารถเป็นส่วนหนึ่งและมีส่วนร่วมกับชุมชนในรูปแบบเฉพาะซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละร้านสาขา ล่าสุดได้ปรับร้านเดิมที่ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนี้ เป็นร้านเพื่อชุมชนแห่งที่2ผ่านรูปแบบการดำเนินธุรกิจแบบแบ่งปันรายได้ โดย 10 บาท จากการจำหน่ายกาแฟทุกแก้วจะได้รับการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกันให้แก่ 2 องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งได้แก่ มูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated Tribal Development Foundation – ITDF) และ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ (Scholars of Sustenance – SOS)








กำลังโหลดความคิดเห็น