ด้วยปัญหาเรื่องโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน หรือแม้กระทั่งปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงขึ้น ปัญหาพลังงานเชื้อเพลิงที่เหลือน้อยลงในปัจจุบัน ฯลฯ ทำให้หลายคนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานกันมากขึ้น ทั้งนี้จึงทำให้หลายองค์กรมองหานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิต แถมยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสอดรับกับโลกยุคปัจจุบัน
นวัตกรรมอย่าง ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) ถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในยุคนี้ รวมทั้งนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนอุตสาหกรรมยุคใหม่ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้เองทางกลุ่มบริษัท ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่สำคัญของประเทศไทย จึงได้เล็งเห็นความสำคัญ พร้อมร่วมผลักดัน ด้วยการนำนวัตกรรมที่รองรับและยกระดับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจัดแสดงในงาน Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
สำหรับงาน Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023 เป็นมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีที่ผนึกกำลังกันระหว่าง บริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และพันธมิตร Motoring X สื่อในเครือผู้จัดการ ภายในงานมีการจัดแสดงเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ ให้แก่ประชาชนผู้สนใจได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ ๆ อาทิ Benz, BYD, Volvo, MG ฯลฯ ถือเป็นงานแสดงรถยนต์ในช่วงกลางปีที่มีส่วนผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 แล้ว
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023” กล่าวถึงงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ว่า ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 แล้วที่จัดมหกรรมนี้ขึ้นมา โดยเป็นงานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว ที่มีการรับประกันซื้อคืนมาโดยตลอด ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ครบเครื่องเรื่องรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
“ไฮไลต์ของปีนี้คือ มีการจัดแสดงรถพร้อมจำหน่ายรถยนต์ครบ 3 เซกเมนต์ ได้แก่ 1.รถยนต์ใหม่ป้ายแดง มีแบรนด์ชั้นนำจาก ญี่ปุ่น จีน และยุโรป 2. รถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีกว่า 100 คัน จากผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานผ่านการคัดเลือกจากผู้จัด ตั้งแต่อีโคคาร์ไปจนถึงซูเปอร์คาร์ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 8 ราย ได้แก่ DDS คาร์เซ็นเตอร์, THE ONE Pattanakarn, โยรัชดา, ดา ศรีนครินทร์, รถเศรษฐี Sethi Premium Used Car, CarDeeSureOK , เบสท์ เซอร์วิส, และคาร์ ฮีโร่ 3. รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงโซนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่อย่างครบวงจร อีกอีกทั้งยังมีระบบการจองคิวเพื่อเปิดประสบการณ์การขับรถยนต์ไฟฟ้าภายในฮอลล์เป็นครั้งแรก เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งในปีนี้มีการเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดแสดงอีก 5,000 ตารางเมตร รวมทั้งสิ้น 20,000 ตารางเมตร”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่ม ปตท. มีพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ และได้เล็งเห็นวิกฤติพลังงานโลกที่ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับปัญหาโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจพลังงานจึงได้ปรับตัวรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่จะมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2050 ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ กลุ่ม ปตท. โดยมีกลยุทธ์ 3 แนวทางหลัก (3P) ได้แก่
1. Pursuit of Lower Emissions (เร่งปรับกระบวนการผลิต) : การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการให้ได้สูงสุด โดยระดมเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. เพื่อบริหารการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกร่วมกัน การนำคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ประโยชน์สูงสุด (Carbon Capture and Utilization : CCU) ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อลดการปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ การปรับปรุงกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต รวมถึงการผลักดันการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน เป็นต้น โดยวิธีการเหล่านี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง ร้อยละ 30 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด
2. Portfolio Transformation (เร่งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) : การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโดยมุ่งธุรกิจพลังงานสะอาด และการเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ซึ่งสอดคล้องตามการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ โดยกำหนดสัดส่วนเป้าหมายระยะยาว 10 ปี ที่ร้อยละ 32 ของงบประมาณการลงทุน การรุกปรับสัดส่วนการลงทุนจะเป็นกลไกสำคัญลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึงร้อยละ 50
3. Partnership with Nature and Society (เร่งปลูกป่าเพิ่มอีก 1 ล้านไร่) : การเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีทางธรรมชาติ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ อย่างน้อยร้อยละ 20 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของ ปตท.
กลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นถึงระยะยาว โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 15 ภายในปี พ.ศ. 2030 บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ
ด้านนางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสนับสนุนการจัดงาน “Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023” ปีนี้ กลุ่ม ปตท. พร้อมนำศักยภาพด้านธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่มาสาธิต และให้ข้อมูลแก่ประชาชน เพื่อรองรับและผลักดันการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์น้ำมันไปสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. ได้แก่ ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ได้รวบรวมนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงในบูธ “PTT Ignite Life Potential จุดพลังชีวิตเพื่ออนาคต” สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคม โดยมีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
- Nuovo+ (นูโอโว พลัส) ระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ EV Value Chain ผ่านการเป็น Battery Solution Provider สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิด Net Zero ของประเทศ ซึ่งภายในงานยังจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ใหม่จากทาง นูโอโว พลัส ได้แก่ E-Plvs – Mobile Energy Storage Charging อุปกรณ์กักเก็บและชาร์จพลังงานด้วยแบตเตอรี่แบบเคลื่อนที่อัจฉริยะ ซึ่งความพิเศษของเครื่องนี้ก็คือ เราไม่ต้องขับรถไปหาที่ชาร์จ แต่เราสามารถจอดรถที่ไหนก็ได้ แล้วปล่อยให้เครื่องประจุไฟ (Charger) เดินมาหาเรา
และอีกหนึ่งนวัตกรรมคือ Gendome – Portable Power Station อุปกรณ์กักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่แบบเคลื่อนที่ได้ ที่ใช้ได้กับเครื่องไฟฟ้าทุกชนิด ที่มีช่องต่อมากถึง 16 ช่อง ไม่ว่าจะเป็น USB-A, USB-C, ปลั๊กไฟแบบ Universal หรือ Wireless Charger เหมาะสำหรับสายแคมป์ปิ้ง
- On-ion (ออน ไอออน) สาธิตการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า แบบครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเป็นพลังงานสะอาดที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด อีกทั้งยังพร้อมบริการจำหน่ายและติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัย ให้คนไทยได้ใช้พลังงานสะอาดอย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า On-ion ทั้งหมด 59 สถานี สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน On-ion พร้อมใช้งานทั้ง iOS และ Android เพื่อค้นหาสถานีใกล้คุณ
- EVme แพลตฟอร์มบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน ที่รวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์ให้คุณได้เลือกขับได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ โดยมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแบบง่าย ๆ สามารถขับขี่ได้ทั่วประเทศ พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบอย่างละเอียดได้โดยการปักหมุดในขั้นตอนการจองผ่านแอปพลิเคชัน EVme ปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้าให้บริการมากกว่า 700 คัน
- Swap&Go เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ ใช้เวลาสลับแบตเตอรี่ไม่นาน อีกทั้งระยะทางต่อการสวอพอยู่ที่ 80-90 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจเดลิเวอรี่ และการเดินทางทุกไลฟ์สไตล์ในเมือง รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และมุ่งเน้นการสร้างพลังงานสะอาดเพื่อคนไทยทุกคน โดยเปิดให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่มากกว่า 22 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ร่วมพัฒนากับทางพันธมิตรมาให้ชมในบูธอีกด้วย
- OR จำลอง PTT Station ซึ่งเป็นสถานีบริการที่มีผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึง สินค้าและบริการครบครัน พร้อมเติมเต็มทุกความสุขให้กับทุกคน โดยภายในงานมี EV Station PluZ สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า จำลองสถานีบริการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง EV Station PluZ เป็นอีกหนึ่งการให้บริการทางด้านพลังงานทางเลือก ที่ OR นำมารองรับความต้องการของผู้บริโภค และแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยปัจจุบันได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จให้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าทุกค่ายในประเทศไทย ผ่านแอปพลิเคชัน EV Station PluZ บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ครอบคลุมทุกการเดินทางทั่วไทย ตรงตามคอนเซ็ปชาร์จได้ไกลไปได้ทุกที่ ปัจจุบันมี EV Station PluZ กว่า 411 แห่ง และคาดว่าสิ้นปีจะมี EV Station PluZ 800 แห่งทั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ภายในงานยังมีบริการเครื่องดื่มจากคาเฟ่อเมซอนแก่ผู้เข้าชมบูธในกลุ่ม ปตท. ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โดยผู้สนใจรถยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าสามารถมาเยี่ยมชมบูธในกลุ่ม ปตท. ได้ตั้งแต่วันที่ 5-9 กรกฎาคม 2566 นี้ ณ. ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH101-104
นวัตกรรมอย่าง ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) ถือได้ว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในยุคนี้ รวมทั้งนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนอุตสาหกรรมยุคใหม่ ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยเหตุนี้เองทางกลุ่มบริษัท ปตท. ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานที่สำคัญของประเทศไทย จึงได้เล็งเห็นความสำคัญ พร้อมร่วมผลักดัน ด้วยการนำนวัตกรรมที่รองรับและยกระดับการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาจัดแสดงในงาน Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023 งานมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 กรกฎาคม 2566 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
สำหรับงาน Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023 เป็นมหกรรมยานยนต์ครั้งยิ่งใหญ่แห่งปีที่ผนึกกำลังกันระหว่าง บริษัท คิง ออฟ ออโต้ โปรดักท์ จำกัด และพันธมิตร Motoring X สื่อในเครือผู้จัดการ ภายในงานมีการจัดแสดงเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าจากค่ายรถยนต์ชั้นนำ ให้แก่ประชาชนผู้สนใจได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ ๆ อาทิ Benz, BYD, Volvo, MG ฯลฯ ถือเป็นงานแสดงรถยนต์ในช่วงกลางปีที่มีส่วนผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 แล้ว
นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน “Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023” กล่าวถึงงานมหกรรมยานยนต์ครั้งนี้ว่า ปีนี้ถือเป็นครั้งที่ 11 แล้วที่จัดมหกรรมนี้ขึ้นมา โดยเป็นงานแสดงและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดง และรถยนต์ใช้แล้ว ที่มีการรับประกันซื้อคืนมาโดยตลอด ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ครบเครื่องเรื่องรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
“ไฮไลต์ของปีนี้คือ มีการจัดแสดงรถพร้อมจำหน่ายรถยนต์ครบ 3 เซกเมนต์ ได้แก่ 1.รถยนต์ใหม่ป้ายแดง มีแบรนด์ชั้นนำจาก ญี่ปุ่น จีน และยุโรป 2. รถยนต์ใช้แล้วคุณภาพดีกว่า 100 คัน จากผู้ประกอบการที่ได้มาตรฐานผ่านการคัดเลือกจากผู้จัด ตั้งแต่อีโคคาร์ไปจนถึงซูเปอร์คาร์ โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 8 ราย ได้แก่ DDS คาร์เซ็นเตอร์, THE ONE Pattanakarn, โยรัชดา, ดา ศรีนครินทร์, รถเศรษฐี Sethi Premium Used Car, CarDeeSureOK , เบสท์ เซอร์วิส, และคาร์ ฮีโร่ 3. รถยนต์ไฟฟ้า นวัตกรรมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงโซนที่ให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่อย่างครบวงจร อีกอีกทั้งยังมีระบบการจองคิวเพื่อเปิดประสบการณ์การขับรถยนต์ไฟฟ้าภายในฮอลล์เป็นครั้งแรก เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งในปีนี้มีการเพิ่มพื้นที่สำหรับจัดแสดงอีก 5,000 ตารางเมตร รวมทั้งสิ้น 20,000 ตารางเมตร”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่ม ปตท. มีพันธกิจหลักในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ และได้เล็งเห็นวิกฤติพลังงานโลกที่ผันแปรไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับปัญหาโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจพลังงานจึงได้ปรับตัวรูปแบบใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ทั่วโลกให้ความสนใจ ทั้งนี้ก็เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ที่จะมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2050 ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจหลักของ กลุ่ม ปตท. โดยมีกลยุทธ์ 3 แนวทางหลัก (3P) ได้แก่
1. Pursuit of Lower Emissions (เร่งปรับกระบวนการผลิต) : การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการให้ได้สูงสุด โดยระดมเทคโนโลยีของกลุ่ม ปตท. เพื่อบริหารการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกร่วมกัน การนำคาร์บอนไดออกไซด์ไปใช้ประโยชน์สูงสุด (Carbon Capture and Utilization : CCU) ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อลดการปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ การปรับปรุงกระบวนการผลิต และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต รวมถึงการผลักดันการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน เป็นต้น โดยวิธีการเหล่านี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง ร้อยละ 30 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด
2. Portfolio Transformation (เร่งเปลี่ยนสู่ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม) : การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนโดยมุ่งธุรกิจพลังงานสะอาด และการเติบโตในธุรกิจใหม่ที่ไกลกว่าพลังงาน ซึ่งสอดคล้องตามการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ โดยกำหนดสัดส่วนเป้าหมายระยะยาว 10 ปี ที่ร้อยละ 32 ของงบประมาณการลงทุน การรุกปรับสัดส่วนการลงทุนจะเป็นกลไกสำคัญลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึงร้อยละ 50
3. Partnership with Nature and Society (เร่งปลูกป่าเพิ่มอีก 1 ล้านไร่) : การเพิ่มปริมาณการดูดซับก๊าซเรือนกระจกจากชั้นบรรยากาศด้วยวิธีทางธรรมชาติ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้ อย่างน้อยร้อยละ 20 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมของ ปตท.
กลุ่ม ปตท. ตั้งเป้าหมายระยะสั้นถึงระยะยาว โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 15 ภายในปี พ.ศ. 2030 บรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2040 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2050 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของประเทศ
ด้านนางกนกพร รอดรุ่งเรือง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารชื่อเสียงองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การสนับสนุนการจัดงาน “Fast Auto Show Thailand and EV Expo 2023” ปีนี้ กลุ่ม ปตท. พร้อมนำศักยภาพด้านธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่มาสาธิต และให้ข้อมูลแก่ประชาชน เพื่อรองรับและผลักดันการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์น้ำมันไปสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท. ได้แก่ ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อรุณ พลัส จำกัด ได้รวบรวมนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงในบูธ “PTT Ignite Life Potential จุดพลังชีวิตเพื่ออนาคต” สอดคล้องตามเป้าหมายของกลุ่ม ปตท. เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมพลังงานอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชนและสังคม โดยมีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ดังนี้
- Nuovo+ (นูโอโว พลัส) ระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ EV Value Chain ผ่านการเป็น Battery Solution Provider สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิด Net Zero ของประเทศ ซึ่งภายในงานยังจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ใหม่จากทาง นูโอโว พลัส ได้แก่ E-Plvs – Mobile Energy Storage Charging อุปกรณ์กักเก็บและชาร์จพลังงานด้วยแบตเตอรี่แบบเคลื่อนที่อัจฉริยะ ซึ่งความพิเศษของเครื่องนี้ก็คือ เราไม่ต้องขับรถไปหาที่ชาร์จ แต่เราสามารถจอดรถที่ไหนก็ได้ แล้วปล่อยให้เครื่องประจุไฟ (Charger) เดินมาหาเรา
และอีกหนึ่งนวัตกรรมคือ Gendome – Portable Power Station อุปกรณ์กักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่แบบเคลื่อนที่ได้ ที่ใช้ได้กับเครื่องไฟฟ้าทุกชนิด ที่มีช่องต่อมากถึง 16 ช่อง ไม่ว่าจะเป็น USB-A, USB-C, ปลั๊กไฟแบบ Universal หรือ Wireless Charger เหมาะสำหรับสายแคมป์ปิ้ง
- On-ion (ออน ไอออน) สาธิตการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า แบบครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเป็นพลังงานสะอาดที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% และเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด อีกทั้งยังพร้อมบริการจำหน่ายและติดตั้ง EV Charger ในที่พักอาศัย ให้คนไทยได้ใช้พลังงานสะอาดอย่างทั่วถึง โดยปัจจุบันมีสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า On-ion ทั้งหมด 59 สถานี สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน On-ion พร้อมใช้งานทั้ง iOS และ Android เพื่อค้นหาสถานีใกล้คุณ
- EVme แพลตฟอร์มบริการเช่ารถยนต์ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชัน ที่รวบรวมรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์ให้คุณได้เลือกขับได้ตามระยะเวลาที่ต้องการ โดยมอบประสบการณ์การเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าแบบง่าย ๆ สามารถขับขี่ได้ทั่วประเทศ พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง สามารถตรวจสอบอย่างละเอียดได้โดยการปักหมุดในขั้นตอนการจองผ่านแอปพลิเคชัน EVme ปัจจุบันมีรถยนต์ไฟฟ้าให้บริการมากกว่า 700 คัน
- Swap&Go เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการสลับแบตเตอรี่สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบบไม่ต้องรอชาร์จ ใช้เวลาสลับแบตเตอรี่ไม่นาน อีกทั้งระยะทางต่อการสวอพอยู่ที่ 80-90 กิโลเมตร ทั้งนี้เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจเดลิเวอรี่ และการเดินทางทุกไลฟ์สไตล์ในเมือง รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และมุ่งเน้นการสร้างพลังงานสะอาดเพื่อคนไทยทุกคน โดยเปิดให้บริการสถานีสลับแบตเตอรี่มากกว่า 22 แห่ง ทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ร่วมพัฒนากับทางพันธมิตรมาให้ชมในบูธอีกด้วย
- OR จำลอง PTT Station ซึ่งเป็นสถานีบริการที่มีผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึง สินค้าและบริการครบครัน พร้อมเติมเต็มทุกความสุขให้กับทุกคน โดยภายในงานมี EV Station PluZ สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า จำลองสถานีบริการชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่ง EV Station PluZ เป็นอีกหนึ่งการให้บริการทางด้านพลังงานทางเลือก ที่ OR นำมารองรับความต้องการของผู้บริโภค และแนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ โดยปัจจุบันได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จให้รวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังรองรับการใช้งานของรถยนต์ไฟฟ้าทุกค่ายในประเทศไทย ผ่านแอปพลิเคชัน EV Station PluZ บนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้งานได้อย่างสะดวก รวดเร็ว แม่นยำ ครอบคลุมทุกการเดินทางทั่วไทย ตรงตามคอนเซ็ปชาร์จได้ไกลไปได้ทุกที่ ปัจจุบันมี EV Station PluZ กว่า 411 แห่ง และคาดว่าสิ้นปีจะมี EV Station PluZ 800 แห่งทั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ภายในงานยังมีบริการเครื่องดื่มจากคาเฟ่อเมซอนแก่ผู้เข้าชมบูธในกลุ่ม ปตท. ฟรี! โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โดยผู้สนใจรถยนต์ไฟฟ้าและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้าสามารถมาเยี่ยมชมบูธในกลุ่ม ปตท. ได้ตั้งแต่วันที่ 5-9 กรกฎาคม 2566 นี้ ณ. ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ฮอลล์ EH101-104