นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดใจเบื้องหลังคว้ารางวัลระดับประเทศ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงให้ประชาชนในประเทศ แต่เมื่อสถานการณ์โลกเปลี่ยนผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ ปตท.ต้องเร่งปรับตัวให้ทันท่วงทีและได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนากลุ่มธุรกิจใหม่ที่เป็นมากกว่าคำว่าพลังงาน เพื่อมุ่งหวังให้สังคมไทยและโลกที่เราอยู่นั้นดียิ่งขึ้น ซึ่งได้ให้ความสนใจในการลงทุนกับภาคธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่ อุตสาหกรรมใหม่ โลจิสติกส์และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จึงได้พัฒนาธุรกิจพลังงานแห่งอนาคต หรือ Future Energy and Beyond เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ เช่น ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ธุรกิจโรงงานผลิตแบตเตอรี่และจัดจำหน่ายโมดูลแบตเตอรี่ รวมทั้งชุดแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงาน (Energy Storage) ธุรกิจด้าน AI, Robotics & Digitalization ตลอดจนธุรกิจ Life Science ที่เน้นเกี่ยวกับ ผลิตภัณฑ์ยา โภชนาการ และวัสดุทางการแพทย์ ที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐและวิสัยทัศน์ขององค์กร ถือเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ที่เข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ตลาดโลก และสร้างรากฐานที่มั่นคงให้เศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
"จากความทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจ สู่การคว้ารางวัลคุณภาพระดับประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจพลังงานใหม่ควบคู่ไปกับการยึดถือปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ผ่านการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) และการกำกับดูแลการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมาย (Compliance) หรือ GRC ที่ผมและผู้บริหาร รวมถึงพนักงาน ปตท.ทุกท่านยึดหลักปฏิบัติมาโดยตลอด ส่งผลให้ในวันนี้ ปตท.เป็นหนึ่งในองค์กรที่คว้ารางวัลจากภาครัฐและเอกชนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลรัฐวิสาหกิจยอดเยี่ยมและดีเด่น รางวัลองค์กรโปร่งใส 5 ปีซ้อน ตอกย้ำการบริหารจัดการองค์กรบนหลักธรรมาภิบาล เสริมสร้างวัฒนธรรมด้าน GRC ที่ดีให้กับพนักงาน รางวัลองค์กรคุณธรรมต้นแบบ จากคณะกรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ"
ล่าสุดกับรางวัลสุดยอดผู้นำองค์กรแห่งปี “THAILAND TOP CEO OF THE YEAR 2023 ประเภทอุตสาหกรรมพลังงาน ที่เป็นหนึ่งในรางวัลอันทรงคุณค่าเพื่อเชิดชูเกียรติผู้บริหารสูงสุดขององค์กรที่มีความโดดเด่นในแต่ละอุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำและการสร้างความผูกพันในองค์กร รวมทั้งความสามารถในการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักปฏิบัติตาม GRC อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศไทยต่อไป
"นับเป็นความภาคภูมิใจของผมและเพื่อนพนักงาน ปตท.ที่ได้รับเกียรติและการยอมรับในความมุ่งมั่นทุ่มเทต่อการบริหารจัดการองค์กรบนหลักธรรมาภิบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยและคนทั่วโลกอย่างยั่งยืนต่อไป"