กรมการค้าภายในติดตามการรับซื้อทุเรียนภาคใต้ พบผู้ประกอบการ ทั้งส่งออก ล้ง ผู้ค้าส่ง ลงไปรับซื้อครอบคลุมพื้นที่กว่า 70% แล้ว คาดสัปดาห์หน้าเพิ่มเป็น 80% หรือมากกว่า ส่วนตลาดมรกต ก็เปิดรับซื้อแล้วเช่นเดียวกัน ดันราคาเกรดส่งออกขยับกิโลกรัมละ 120-135 บาท เกรดคละ 80-90 บาท ย้ำเกษตรกรตัดทุเรียนคุณภาพ และหากใครพบการกดราคา ฮั้วกดราคา แจ้ง 1569 จะเข้าไปจัดการเด็ดขาด
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์การซื้อขายทุเรียนภาคใต้ ที่ขณะนี้ผลผลิตได้ออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 10% พบว่า ผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียนจากภาคตะวันออก ทั้งผู้ส่งออก ล้งไทย ล้งจีน ผู้ค้าส่ง ได้ลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรับซื้อผลผลิตทุเรียนครอบคลุมพื้นที่แล้วกว่า 70% และตั้งแต่ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเข้าไปครอบคลุมพื้นที่ 80% หรือมากกว่า แต่ถ้าจุดไหน มีปัญหาผลผลิตออกมา กรมฯ จะเร่งประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อเป็นกรณีพิเศษด้วย
ส่วนการรับซื้อของตลาดมรกต ซึ่งเป็นตลาดทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศในส่วนของภาคใต้ ขณะนี้ผู้ประกอบการรับซื้อกว่า 50 ล้ง และผู้ประกอบการที่ซื้อทุเรียนไปจำหน่ายในประเทศ ห้องเย็น และโรงงานแปรรูป กว่า 300 ราย ก็ได้เริ่มซื้อแล้ว ทำให้ราคาขยับขึ้นต่อเนื่อง โดยทุเรียนเกรดส่งออก กิโลกรัม (กก.) ละ 120-135 บาท เกรดคละ กก.ละ 80-90 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ดีกว่าปีที่ผ่านมา
สำหรับตลาดส่งออก พบว่ามีการรวบรวมทุเรียนเพื่อส่งออกอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางเรือ ทางบก โดยไม่มีปัญหาติดขัด เพราะเรือมี ตู้สินค้าก็มีมาก และราคาถูกลง ส่วนทางบกก็ไปได้ต่อเนื่อง ทั้งทางบกเข้าสู่ตลาดจีน และทางรถไฟเข้าสู่ตลาดจีน
“กรมฯ ขอความร่วมมือเกษตรกรให้ตัดทุเรียนที่สุกแก่และพอดี เพื่อให้ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ และจะขายได้ราคาสูงขึ้น แต่หากเกษตรกรพบเห็นว่าการฉวยโอกาสกดราคา หรือพบพฤติกรรมที่เอารัดเอาเปรียบ ให้แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะเข้าไปตรวจสอบและดำเนินการกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งจะตรวจสอบการรับซื้อของผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดด้วย หากมีการฮั้วกดราคา หรือร่วมมือกันกดราคา ก็จะดำเนินการตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าด้วย” นายวัฒนศักย์กล่าว