สนค.เปิดตัวระบบแดชบอร์ดสินค้าเกษตรรายการใหม่ “ไก่เนื้อ” หวังช่วยผู้ประกอบการมีข้อมูลการผลิต การตลาด เพื่อใช้ในการวางแผนทำธุรกิจ และภาครัฐใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบาย เผยจากการวิเคราะห์พบไทยมีผู้เลี้ยงกว่า 3 หมื่นราย ผลิตได้ปีละ 3 ล้านตัน ส่วนใหญ่อยู่ภาคกลาง ส่งออกอันดับต้นๆ รองจากข้าวและทุเรียน ชี้มีศักยภาพส่งออกทั้งเนื้อไก่ปรุงแต่ง ชิ้นเนื้อและส่วนอื่นๆ ไก่ทั้งตัว
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค.ได้ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) และกรมปศุสัตว์ จัดทำแดชบอร์ดสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เผยแพร่แดชบอร์ดสินค้าไก่เนื้อเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้เผยแพร่แล้วรวม 7 สินค้า ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทุเรียน กุ้งขาวแวนนาไม เพื่อใช้ติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรสำคัญ ทั้งด้านการผลิต ราคา และการส่งออก และเปิดให้ผู้ประกอบการมีข้อมูลที่จะนำมาใช้ในการวางแผนการผลิต การทำตลาด การทำธุรกิจ และการกำหนดนโยบายให้กับภาครัฐ โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่านเว็บไซต์ www. คิดค้า.com
ผลจากการวิเคราะห์ของแดชบอร์ดสินค้าไก่เนื้อ พบว่า ปัจจุบันไทยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อมากกว่า 3 หมื่นราย ในแต่ละปีมีผลผลิตไก่เนื้อประมาณ 3 ล้านตัน ผลผลิตส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง 50.8% ของผลผลิตทั้งประเทศ รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 20.0% และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14.7% สำหรับ 3 จังหวัดแรก ที่มีผลผลิตสูงสุด คือ ลพบุรี กาญจนบุรี และชลบุรี ตามลำดับ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมไก่เนื้อมีความสำคัญต่อประเทศ ทั้งด้านความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยไก่เป็นสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญลำดับต้นๆ ของไทย รองจากสินค้าเพียงไม่กี่รายการ เช่น ข้าว และทุเรียน
นายพูนพงษ์กล่าวว่า ข้อมูลจากแดชบอร์ดพบว่าไทยมีศักยภาพที่จะขยายตลาดส่งออกเป้าหมายสินค้าเนื้อไก่ได้เพิ่มเติม โดย 1. เนื้อไก่ปรุงแต่ง มีโอกาสสูงในตลาดฝรั่งเศส สหรัฐฯ เยอรมนี เบลเยียม และเดนมาร์ก 2. ชิ้นเนื้อและส่วนอื่นๆ สด แช่เย็น แช่แข็ง มีโอกาสสูงในตลาดฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และเม็กซิโก และ 3.ไก่ทั้งตัว สด แช่เย็น แช่แข็ง มีโอกาสสูงในตลาดซาอุดีอาระเบีย เยอรมนี อิหร่าน สหราชอาณาจักร และกาตาร์ เป็นต้น
ปัจจุบันการส่งออกไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์ของโลกมีมูลค่ามากกว่า 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ผู้ส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บราซิล 2. สหรัฐฯ 3. เนเธอร์แลนด์ 4. ไทย และ 5. โปแลนด์ โดยบราซิล และสหรัฐฯ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ เนื้อไก่แช่แข็ง ขณะที่เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ คือ เนื้อไก่สด และแช่เย็น สำหรับไทย สินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ เนื้อไก่ปรุงแต่ง
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 44.9 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 11.1% และราคาส่งออกก็เพิ่มขึ้น โดยไก่ทั้งตัว สด แช่เย็น แช่แข็ง มีราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 70.78 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 55.6% ขณะที่เนื้อไก่ปรุงแต่งมีราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ 151.28 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 7.6% เป็นต้น สำหรับการส่งออกในไตรมาสแรกของปี 2566 ไทยส่งออกไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์เป็นมูลค่ารวม 1,009.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.4%
ส่วนการส่งออกของไทย ในปี 2565 ไทยส่งออกไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์มากกว่า 1 ล้านตัน เป็นมูลค่า 4,074.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.7% สินค้าส่งออกสำคัญของไทย 3 อันดับแรก คือ 1. เนื้อไก่ปรุงแต่ง มูลค่า 2,930.3 ล้านเหรียญสหรัฐ 2. ชิ้นเนื้อและส่วนอื่นๆ สด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่า 1,135.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 3. ไก่ทั้งตัว สด แช่เย็น แช่แข็ง มูลค่า 6.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
โดยการส่งออกเนื้อไก่ปรุงแต่งมีสัดส่วนมากกว่า 70% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าไก่เนื้อและผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของไทย และไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเนื้อไก่ปรุงแต่งอันดับ 1 ของโลก มีส่วนแบ่งในตลาดโลก 27.1% รองจากไทย คือ จีน เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ และโปแลนด์ ตามลำดับ ตลาดส่งออกเนื้อไก่ปรุงแต่งที่สำคัญของไทย ได้แก่ ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และเนเธอร์แลนด์