รฟท.โชว์"สถานีปากช่อง"
ปรับปรุงใหม่ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของรถไฟทางคู่สายอีสาน (มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ) ออกแบบผสมศิลปะท้องถิ่นพื้นที่กว้างขวาง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับคนทุกกลุ่ม (Universal Design)
ทีมพีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้นำเสนอ อีกหนึ่ง สถานี Landmark ของโครงการรถไฟทางคู่ สายอีสาน ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ได้แก่ สถานีปากช่อง โดย การออกแบบตัวอาคาร เป็นการนำรูปแบบของศิลปะในท้องถิ่น มาประยุกต์ในการออกแบบอาคาร ให้สอดคล้องกับพื้นที่ และการใช้งานของสถานี รวมถึง รองรับคนทุกกลุ่ม (Universal Design)
ซึ่งสถานีปากช่อง เป็นสถานีขนาดใหญ่ หนึ่งในสถานีที่สำคัญของเส้นทางรถไฟสายอีสาน ที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และ อุทยานธรณีโคราช (Khorat Geopark) ซึ่งทั้ง 2 ส่วนได้รับการรับรองจาก UNESCO ในความสำคัญด้านชีววิทยา และ ธรณีวิทยา
โดย สถานีปากช่อง มีสิ่งอำนวยความสะดวกผู้โดยสารอย่างครบครัน ทั้งพื้นที่จำหน่ายตั๋วรถไฟ และ พื้นที่รอคอยโดยสาร มีขนาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 200 คน
ลิฟต์ให้บริการผู้โดยสาร ทั้งในส่วนภายในอาคารสถานี และการเข้าถึงชานชาลา รองรับผู้โดยสารทุกกลุ่ม
มีชานชาลารถไฟเพื่อรองรับการให้บริการถึง 4 ชานชาลา พร้อมกับการยกระดับเป็นชานชาลาสูง เท่าระดับพื้นตัวรถ เพื่อความสะดวกในการเข้า-ออก พร้อมพื้นที่จอดรถ มากกว่า 50 คัน
สำหรับ ขบวนที่ให้บริการผ่านสถานีปากช่อง ได้แก่
- ขบวน 23/24 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 141/142 รถเร็ว กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 431/432 รถท้องถิ่น แก่งคอย-ขอนแก่น-แก่งคอย
- ขบวน 21/22 รถด่วนพิเศษ กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 135/136 รถเร็ว กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 71/72 รถด่วนดีเซลราง กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 233/234 รถธรรมดา กรุงเทพอภิวัฒน์-สุรินทร์-กรุงเทพอภิวัฒน์
- ขบวน 139/140 รถเร็ว กรุงเทพอภิวัฒน์-อุบลราชธานี-กรุงเทพอภิวัฒน์
ซึ่งในขบวนด่วนพิเศษ ใช้เวลา จาก สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึง สถานีปากช่อง เพียง 3 ชั่วโมงเท่านั้น เป็นทางเลือกในการเดินทางผู้โดยสารในการท่องเที่ยวด้วยระบบราง
โดยรฟท. หวังอย่างยิ่งว่า สถานีรถไฟปากช่อง จะเป็นอีกหนึ่ง Landmark ในการเดินทางเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น