มาซาร์สในประเทศไทยเตรียมเสริมการบริการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยบริษัทที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับของบริษัทให้ได้รับประโยชน์จากการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยที่ได้ประกาศใช้เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับล่าสุดจะช่วยผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ เพื่อเอื้อให้การจัดการธุรกิจมีความคล่องตัวและสามารถทำการควบรวมตลอดจนซื้อกิจการได้ง่ายขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจได้อย่างคล่องตัว
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมได้ประกาศและเริ่มมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา โดยประมวลกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการตามแผนการสร้างการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงกว่าเดิมจากช่วงปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ บริษัทมาซาร์สในประเทศไทยตระหนักถึงความจำเป็นที่ภาคธุรกิจต้องปรับตัวให้เข้ากับข้อกำหนดทางกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติม จึงเตรียมพร้อมการบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแก่องค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับของบริษัทให้เข้ากับบริบทของกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติม การให้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของทางมาซาร์ส จะช่วยให้บริษัทต่างๆ เข้าใจในรายละเอียดของตัวบทกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติม และดำเนินการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อบังคับของบริษัทให้ได้สอดคล้องและรองรับกับกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้
นายชัชวัสส์ เกรียงสันติกุล หุ้นส่วน บริษัท มาซาร์ส ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมล่าสุดของประเทศไทยจะทำให้บริษัทจดทะเบียนสามารถดำเนินธุรกิจได้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกฎหมายที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมใหม่ได้ผ่อนปรนระเบียบกำหนดเดิมในรายละเอียดต่างๆ เช่น การลดจำนวนผู้เริ่มก่อการและผู้ถือหุ้น การลดขั้นตอนการประชุมผู้ถือหุ้น การนำเสนอการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การลดความซับซ้อนในการดำเนินงานต่างๆ ในภาพรวมของการดำเนินธุรกิจ ขั้นตอนต่างๆ จะทำให้บริษัทต่างๆ ที่ต้องการควบรวมและเข้าซื้อกิจการเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจคล่องตัวขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะสอดคล้องกับกระแสการควบรวมกิจการซึ่งเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น
“ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมจะเอื้อประโยชน์สำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการผ่อนปรนกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ จะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยมีกฎระเบียบและข้อกำหนดทางกฎหมายน้อยลง มีกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม เราอยากแนะนำให้บริษัทจดทะเบียนได้ทำการแก้ไขข้อบังคับของบริษัทให้สอดคล้องกับบริบทของกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมนี้เพื่อให้ใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีได้อย่างเต็มที่”
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมของประเทศไทยถูกกำหนดขึ้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและเอื้อประโยชน์สูงสุดแก่บริษัทจดทะเบียนที่ต้องการทำธุรกิจในประเทศไทย โดยลดขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมายที่ซับซ้อนออกไป เพิ่มความคล่องตัว และทำให้ต้นทุนการดำเนินงานต่ำลง
นับเป็นก้าวสำคัญของธุรกิจในประเทศไทยจากการที่มีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจและนวัตกรรมในภูมิภาค องค์กรธุรกิจควรได้รับการสนับสนุนให้ใช้ประโยชน์จากกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมนี้ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้าต่อไปในอนาคต