SCC อนุมัติแผนให้ "เอสซีจี เดคคอร์" (SCGD) เสนอขายหุ้น IPO เพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 444.10 ล้านหุ้น รองรับการขาย IPO และการแลกหุ้น COTTO พร้อมแตกพาร์จากหุ้นละ 100 บาทเป็นหุ้นละ 10 บาท นำเงินขยายธุรกิจทั้งใน และต่างประเทศ
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 มีมติอนุมัติแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของ บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (SCGD) และการนำหุ้นสามัญของ SCGD เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในรูปแบบบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยกำหนดสัดส่วนจำนวนหุ้น IPO เป็นจำนวนไม่เกินร้อยละ 26.83 ของทุนชำระแล้ว ของ SCGD ภายหลังการเพิ่มทุนและการเสนอขายหุ้น IPO
โดยอนุมัติ SCGD แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และอนุมัติเรื่องต่างๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) ของ SCGD จาก 100 บาท/หุ้น หรือมีจำนวนหุ้น 121,090,000 บาท เป็นพาร์ 10 บาท/หุ้น หรือจำนวนหุ้น 1,210,900,000 บาท โดยการแตกพาร์นี้จะไม่ทำให้จำนวนทุนจดทะเบียนของ SCGD เปลี่ยนแปลงไป
การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ SCGD จำนวน 4,441,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 12,109,000,000 บาท เป็นจำนวน 16,550,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 444,100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท เพื่อเสนอขายหุ้น IPO ให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ (Pre-Emptive Right) ผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือ พนักงาน บุคคลผู้มีความสัมพันธ์ของ SCGD และ/หรือ บริษัทย่อยของ SCGD ผู้มีอุปการคุณ และ/หรือ บริษัทย่อยของ SCGD รวมถึงการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อผู้จัดหาหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment Agent) (ถ้ามี) และ ผู้ถือหุ้นของบริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ COTTO ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของ SCGD
ทั้งนี้ รายละเอียดข้างต้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ตามที่คณะกรรมการของ SCGD และ/หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของ SCGD เห็นสมควร ซึ่งรวมถึงการกำหนดรายละเอียด เงื่อนไข สัดส่วนการเสนอขายและจัดสรรหุ้น IPO ข้างต้น ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาอีกครั้งในภายหลัง
ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้น IPO ดังกล่าวจะกระทำได้ต่อเมื่อ SCGD ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนเพื่อการเสนอขายหุ้น IPO มีผลใช้บังคับแล้ว
โดยคาดว่า SCGD จะนำเงินที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อใช้ลงทุนในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ใช้ในการปรับโครงสร้างทางการเงิน ชำระหนี้บางส่วน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงวัตถุประสงค์อื่น