xs
xsm
sm
md
lg

“โอกิลวี่” จัดทัพ-นิวแพลตฟอร์ม ดันกลยุทธ์ “3 IMPACT” ชิงลูกค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- โลกเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน “โอกิลวี่” อัพเลเวล จากเอเจนซี่ เป็น ครีเอทีฟแพลตฟอร์ม วางตัวเองเป็น Partner for Grow ภายใต้แนวคิด “Borderless Creativity” มั่นใจปีนี้รายได้โตกว่าปีที่ผ่านมา หลังเห็นสัญญาณบวกจากลูกค้าตั้งแต่ Q3 ของปีที่ผ่านมา

นางสาวจิรวรา วีรยวรรธน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โอกิลวี่ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนเร็วมาก ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วด้วยเช่นกัน ความต้องการของลูกค้ากว่า 80% ในปัจจุบันมองว่า ธุรกิจไม่ใช่เรื่องของการขายของเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องสร้างอิมแพคให้กับส่วนรวมและโลกใบนี้ ส่งผลให้แนวทางการทำงานของโอกิลวี่ หลังจากนี้จะอยู่ภายใต้วิสัยทัศน์ คือ การจุดประกายแรงบันดาลใจให้ผู้คนและแบรนด์ต่างๆ สามารถสร้าง "อิมแพค" ให้กับโลกใบนี้ การทำงานและความคิดสร้างสรรค์ในงานยุคใหม่
 
ดังนั้นการทำงานของโอกิลวี่หลังจากนี้ ไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่เอเจนซี่อีกต่อไป แต่วางตัวเองเป็นครีเอทีฟแพลตฟอร์ม เป็น Partner for Grow ให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด “Borderless Creativity”
 
โดยปีนี้โอกิลวี่ ได้ปรับกลุ่มธุรกิจออกเป็น 5 กลุ่ม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่ 1.โฆษณา (Advertising) ยังคงเป็นธุรกิจหัวใจหลักของโอกิลวี่ และยังเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้หลักอยู่ในสัดส่วนกว่า 50%, 2.ประชาสัมพันธ์ (Pubic Relations), 3.การสร้างประสบการณ์ลูกค้า (Experience) เป็นบริการใหม่ที่ลูกค้าให้ความสำคัญอย่างมากในปีนี้ มองว่าเป็นโอกาสที่จะเห็นการเติบโตมากที่สุด, 4.ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Consulting) และ5.เฮลธ์ (Health) เป็นเทรนด์ใหม่ที่เติบโตสูงมากตั้งแต่เกิดโควิด 19
 


ทั้งนี้ทีมงานจากแต่ละกลุ่มธุรกิจต่างนำความเชี่ยวชาญมาร่วมทำงานกับลูกค้าอย่างสอดประสานกัน นำเสนอไอเดียหลากหลายมิติและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างอิมแพคให้เกิดขึ้นได้จริง

“โอกิลวี่พร้อมนำเสนอแนวทาง "ความคิดสร้างสรรค์ที่ไร้เส้นแบ่ง"(Borderless Creativity) ซึ่งเป็นผลมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในโลกปัจจุบัน ที่ทำให้ผู้คนสื่อสารเชื่อมโยงกันได้รวดเร็วและใกล้ชิดกันมากขึ้น เราสามารถรับรู้และสัมผัสกับประสบการณ์ ความคิด ค่านิยม หรือความฝันต่างๆ ของผู้คนนับพันล้านทั่วโลกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อสิ่งเหล่านี้มาบรรจบกันในรูปแบบของไอเดียสร้างสรรค์และสื่อสาร จากมิติอันหลากหลายบนแพล็ตฟอร์ม หลักการ วัฒนธรรม หรือพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกันไป เราจึงสร้างพลังการเปลี่ยนแปลง หรือ ‘อิมแพค’ ในเชิงบวกให้เกิดขึ้นต่อผู้คน โลก และต่อธุรกิจในวงกว้างและมีประสิทธิผลกว่าเดิม” นางสาวจิรวรา กล่าว

ด้านนายชาตรี โชคมงคลเสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกลยุทธ์ โอกิลวี่ ประเทศไทย กล่าวว่า โอกิลวี่มองว่า แนวคิดในการพัฒนากลยุทธ์สื่อสารที่จะส่งผลให้ลูกค้าประสบความสำเร็จได้นั้น ประกอบด้วย 3 แนวทาง คือ 1.IMPACT THINKING คือการสร้างสรรค์กลยุทธ์เพื่อให้เป็นโซลูชั่นทางธุรกิจ ใช้องค์ประกอบหลายๆ ส่วนที่อาจไม่เกี่ยวข้องกันมาประกอบกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ในหลายมิติ ทั้งสร้างการรับรู้หรือการเข้าใจ และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เช่น แคมเปญ Amazing Thailand, Amazing Deep Culture ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

2.IMPACT CONTEXT คือการพัฒนากลยุทธ์ที่คำนึงถึงบริบทและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการผนวกคอนเทนต์ (Content) และบริบท (Contex) ที่มีความเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างถูกที่ถูกเวลา เช่น แคมเปญ Breath of Thailand ของฮอลล์ และแคมเปญ More Space ของอิเกีย

3.IMPACT RESULT คือการพัฒนากลยุทธ์ที่ดึงความโดดเด่นด้านความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้าง อิมแพคใน 3 มิติ ได้แก่ People, Planet และ Performance เกิดคุณค่าต่อผู้บริโภค สังคม และธุรกิจ เช่น แคมแปญ The Innocent Eyes ของวอยซ์ และแคมเปญ "เอาใจไส้" ของดัซชี่


นายกำพล ลักษณะจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสร้างสรรค์ โอกิลวี่ ประเทศไทย กล่าวว่า การนำมุมมองด้าน "อิมแพค" และ "Borderless Creativity" มาใช้ในการทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ทำให้เกิดเป็นประสิทธิภาพด้านความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง สามารถวัดผลเป็นตัวเลขได้ชัดเจนจากทั้งยอดขาย, Brand Love และ Engagement โดยทีมงานครีเอทีฟจะเข้าร่วมทำงานกับทุกกลุ่มธุรกิจของเรา ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ โอกิลวี่ ประเทศไทย สามารถคว้ารางวัลระดับ Grand Prix หรือเทียบเท่ามาได้จาก 3 เวทีประกวดระดับโลก

“โอกิลวี่ มุ่งเป็นแพล็ตฟอร์มต้านความคิดสร้างสรรค์ (Creative Platform) ที่มีเครือข่ายทั่วโลก มีความพร้อมในการเป็นพันธมิตรกับลูกค้าเพื่อสร้างการเติบโตสู่อนาคต (Partner for Growth) เราเดิมเต็มความคาดหวังของผู้บริโภคและคุณค่าของแบรนด์ ด้วยการพัฒนาโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าโดยอาศัยการผสานความเชี่ยวชาญระหว่างทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ ที่ต่างมีความสามารถอย่างโดดเด่นในการสร้างคอนเทนต์ การหาอินไซต์จากดาต้า และการมุ่งใช้ทคโนโลยีใหม่ๆ ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายต่อโลก สังคม และธุรกิจ และจากการที่เห็นสัญญาณการใช้เงินของลูกค้าตั้งแต่ไตรมาสสามของปีก่อนจนถึงขณะนี้ มั่นใจว่าปีนี้โอกอลวี่จะมีรายได้เติบโตมากกว่าปีก่อน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจใหม่อย่าง Experience และ Health จะเติบโตอย่างน้อย 2 หลัก หรือโตเป็นเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” นางสาวจิรวรา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น