กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือตำรวจ เอกชนเจ้าของสิทธิ์ ลงพื้นที่ทั่วประเทศ ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งร้านค้า แหล่งผลิต แหล่งจำหน่ายรายใหญ่ เจอปลอมเพียบ ทั้งกระเป๋า เสื้อ น้ำหอม รองเท้า นาฬิกา อะไหล่รถ หมึกพรินเตอร์ เผยตั้งแต่ม.ค.-เม.ย. จับได้รวม 119 คดี ของกลาง 5.7 แสนชิ้น
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กองบัญชาการตำรวจนครบาล และภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก ลำพูน เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา กระบี่ ภูเก็ต ชลบุรี สุรินทร์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ นครราชสีมา นครปฐม พังงา ปทุมธานี นนทบุรี ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ย่านการค้าริมถนนสุขุมวิทระหว่างซอย 3-19 สีลม พัฒน์พงศ์ ถนนข้าวสาร ประตูน้ำ ศูนย์การค้าแพลทินัม และสำเพ็ง เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การตรวจสอบแหล่งผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ และดำเนินการจับกุมกรณีพบการจำหน่ายสินค้าละเมิด เพื่อตัดตอนและป้องกันการกระจายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาไปยังท้องตลาด
โดยสินค้าที่พบว่ามีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น กระเป๋า เสื้อ กางเกง หมวก น้ำหอม รองเท้า และเครื่องประดับ ละเมิดเครื่องหมายการค้ายี่ห้อชาแนล หลุยส์ วิตตอง เอ็มซีเอ็ม กุชชี่ ดิออร์ ลาคอสท์ แอร์เมส ไนกี้ อาดิดาส นาฬิกาละเมิดเครื่องหมายการค้าโรเล็กซ์ คาสิโอ ปาเต๊ะ ฟิลิปป์ อะไหล่รถฮอนด้า หมึกพรินเตอร์ hp Epson เป็นต้น
ทั้งนี้ นอกจากการตรวจสอบการจำหน่าย การจับกุมผู้กระทำความผิด กรมฯ ยังได้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์ของทรัพย์สินทางปัญญา อันเป็นการส่งเสริมการค้า การลงทุน ภายในประเทศ ตลอดจนปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคจากอันตรายที่อาจเกิดจากการบริโภคสินค้าปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานอีกทางหนึ่งด้วย
สำหรับผลการปฏิบัติงานในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2566 ชุดปฏิบัติการมีการปราบปรามและดำเนินคดีสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้งสิ้น 119 คดี ของกลางจำนวน 570,825 ชิ้น โดยบทลงโทษของการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยหากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางเว็บไซต์ www.ipthailand.go.th หัวข้อบริการ “แจ้งเบาะแสการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา” หรือโทร.สายด่วน 1368
ส่วนบริษัทเอกชนเจ้าของสิทธิ์ที่เข้าร่วมการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประกอบด้วยบริษัท ซีเล็คทีฟ เทรดมาร์ค ยูเนี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท สัตยะพล แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด บริษัท อาร์.ดับบลิว.ที. อินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์ ออฟฟิศ จำกัด บริษัท เอสแอนด์โอ ไอพี จำกัด บริษัท อาร์ทิสต้า รีเสิร์ช จำกัด และบริษัท เลกเซล ไอพี จำกัด