xs
xsm
sm
md
lg

PFG เพิ่มแบรนด์สู้ส่งออกสะดุด กู้ยอดย้ายฐานผลิตลดเสี่ยงOEM

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- สถานการณ์เศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งออกทูน่ากระทบ “PFG” ปรับกลยุทธ์ ชูแผนสร้างแบรนด์ใหม่ๆราว 4-5 แบรนด์กู้ยอดในช่วง 3 ปีนี้ มั่นใจจบปี 2566 มียอดขายโต 7% แตะ 8,800 ล้านบาท จาก 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 11% ทุกปี

นายวิชัย กรณปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด หรือ PFG ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอาหารทะเล และอาหารเพื่อสุขภาพ เปิดเผยว่า กลุ่มพัทยาฟู้ดดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอาหารทะเลในประเทศไทยมากกว่า 44 ปี ที่ผ่านมายึดมั่นคุณภาพของผลิตภัณ์และการให้บริการ ภายใต้แนวคิด “เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้บริโภคอย่างองค์รวม” กว่า 4 ทศวรรษ ได้เผชิญความท้าทายหลายมิติ ทั้งความผันผวนทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมต่างๆ
 
ทั้งนี้ช่วงทศวรรษที่ 3 พบวิกฤติเรื่องวัตถุดิบ และแรงงานที่หายาก จึงตัดสินใจขยายฐานผลิตไปเวียดนาม และจากราคาวัตถุดิบหลักอย่างปลาทูน่าพุ่งสูงขึ้น ส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและตลาด ล่าสุดบริษัทได้ปรับแผนธุรกิจ ขยายพอร์ตโฟลิโอสินค้าเพิ่มเติม
 
โดยช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้ มีการเปิดตัวแบรนด์สินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น 1.นอติลุสเอ็กซ์เท็น เป็นอาหารสุขภาพระดับพรีเมียม กับผลิตภัณฑ์มัลติเกรนโอ๊ตมีล ตอบสนองเทรนด์ ซูเปอร์ฟู้ด ซึ่งเป็นเทรนด์อาหารสุขภาพที่แพร่หลายทั่วโลก 2.ม่อนชะเมา เป็นกลุ่มผัก ผลไม้ ออร์แกนิค, ผัก-ผลไม้ ปลอดภัย ปัจจุบันเริ่มวางจำหน่ายทุเรียนในห้างสรรพสินค้า และเปิดร้านม่อนชะเมา คอนเซ็ปต์ แกร็บแอนด์โก ที่ตึกสยามเคป ซึ่งจะเปิดเพิ่มอีกในระยะต่อไป และ3.ไททัน เป็นแบรนด์ขนมขบเคี้ยว เปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์หนังปลาแซลมอนทอดกรอบ
 


ล่าสุดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ คือ เรมี่ เป็นแบรนด์สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงที่ร่วมกับ รพ. สัตว์ทองหล่อ พัฒนาสูตรโดยทีมนักโภชนาการสัตว์แพทย์ หลังจากนี้จะเน้นเพิ่มไลน์สินค้าอีก 4-5 ตัว ทั้งในกลุ่มอาหารคนและอาหารสัตว์ รวมถึงมุ่งสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง ภายใต้งบที่จะใช้ในปีนี้ราว 500 ล้านบาท ซึ่งหลักๆ เป็นงบลงทุนต่อเนื่องจากปีก่อน จากการสร้างแวร์เฮ้าส์ และไลน์กำลังการผลิตให้มากขึ้น

นายวิชัย กล่าวต่อว่า จากแผนที่วางไว้ ส่งผลให้ปี2565ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายกว่า 8,000 ล้านบาท โต 11% มาจากการผลิตอาหาร 75% อาหารสัตว์เลี้ยง 25% ซึ่งช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังได้ลงทุนเพิ่มอีก 200 ล้านบาท พัฒนาโครงสร้างเพิ่มพื้นที่การผลิต และจัดเก็บสินค้า รวมทั้งระบบจัดเก็บคลังสินค้าอัตโนมัติที่โรงงานมหาชัย สมุทรสาคร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากขึ้น 25%

โดยปัจจุบันกลุ่มพัทยาฟู้ด มีผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์สินค้ามากมาย เช่น นอติลุส, นอติลุสไลท์, นอติลุสเอ็กซ์เท็น, มงกุฏทะเล, ซีคราวน์, ขนมขบเคี้ยว ไททัน, อาหารพร้อมทาน ม่อนชะเมา, และอาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยม รีกาลอส, อาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพ เป็นต้น ส่วนในปี 2566 นี้ ตั้งเป้าการเติบโตเพียง 7% หรือน่าจะมียอดขายที่ 8,800 ล้านบาท เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ ยอดการส่งออกลดลง เห็นได้จากช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ยอดส่งออกไม่โต ส่วนยอดขายในประเทศ ทำได้ 90% จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บริษัทจึงเน้นสร้างแบรนด์ใหม่ๆออกสู่ตลาดเป็นหลัก

“ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทยังคงรักษาระดับการเติบโตของรายได้ 2 หลักอย่างต่อเนื่อง แต่ในปีนี้มองว่าจะทำได้ 7% ซึ่งน่าจะเติบโตน้อยสุดในช่วง 5-10 ปี ดังนั้นจึงเน้นสร้างแบรนด์ของตัวเองมากขึ้น เพราะสามารถบริหารจัดการ และสร้างรายได้ที่ยั่งยืนในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดการพึ่งพารายได้จากการส่งออก หรือ OEM ที่หากมีปัจจัยลบเข้ามา ก็จะทำให้ยอดขายลดลง” นายวิชัย กล่าว.


กำลังโหลดความคิดเห็น