ไทย-EFTA ประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) รอบที่ 4 หารือแบบออนไลน์และออฟไลน์ มีความคืบหน้า ได้ข้อสรุปการยกร่างข้อบทความตกลงในส่วนที่คงค้างเพิ่มขึ้น พร้อมวางแผนการประชุมในปีนี้ อีก 3 รอบ และช่วงต้นปีหน้า เล็งสรุปผลเจรจากลางปี 67
นางอรมน ทรัพย์ธวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) รอบที่ 4 ระหว่างวันที่ 24-28 เม.ย.2566 ที่ผ่านมา ว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นรูปแบบแบบผสมผสาน ทั้งการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ และการประชุมเจรจาแบบพบกันจริง ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ โดยการหารือมีความคืบหน้ามากขึ้นจากการประชุม 3 รอบที่ผ่านมา สามารถทำความเข้าใจและได้ข้อสรุปการยกร่างข้อบทความตกลงในส่วนที่ยังค้างอยู่มากขึ้น พร้อมทั้งได้วางแผนการประชุมในอนาคต โดยในปีนี้ จะจัดขึ้น อีก 3 รอบ ในช่วงเดือนมิ.ย. ก.ย. และพ.ย. และในปี 2567 จะจัดขึ้นในช่วงเดือนม.ค. และมี.ค. เพื่อเดินหน้าสรุปผลการเจรจาให้ได้ ภายในกลางปี 2567
สำหรับการประชุมทางไกลผ่านระบบออนไลน์ เป็นการประชุมในระดับหัวหน้าคณะเจรจา และการประชุมกลุ่มย่อย 9 คณะ ได้แก่ มาตรการเยียวยาทางการค้า มาตรการอุปสรรคเทคนิคต่อการค้า การค้าบริการ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ และข้อบททั่วไป ข้อบทสุดท้าย และข้อบทเชิงสถาบันและการระงับข้อพิพาท
ส่วนการประชุมเจรจาแบบพบกันจริง ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เป็นการประชุมคณะเจรจากลุ่มย่อย 2 กลุ่ม คือ กลุ่มการค้าสินค้า และกลุ่มกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า
ทั้งนี้ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) การค้าระหว่างไทยและ EFTA มีมูลค่าเฉลี่ยปีละ 9,857.84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วง 3 เดือนชองปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) การค้าระหว่างไทยและ EFTA มีมูลค่า 2,259.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไป EFTA มูลค่า 1,315.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจาก EFTA มูลค่า 944.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ เครื่องใช้สำหรับเดินทาง และเครื่องสำอาง และสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ