กรมการค้าภายในแจ้งข่าวดีชาวสวน “มังคุด” เกรดส่งออกราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดแตะกิโลกรัมละ 161 บาท เพิ่ม 164% สูงสุดในประวัติศาสตร์ เงาะโรงเรียน เพิ่ม 94% ทุเรียนหมอนทอง เพิ่ม 5% คาดแนวโน้มดีขึ้นต่อจากความต้องการบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ย้ำมีมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ที่จะเข้าไปช่วยดูแลช่วงผลผลิตออกมาก และนำระบายผ่าน Fruit Festival 2023
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ผลผลิตผลไม้ที่หลายชนิดได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว โดยในส่วนของมังคุด พบว่าราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมังคุดเกรดมัน ราคาเกรดส่งออก ณ วันที่ 29 เม.ย. ที่จังหวัดจันทบุรี ปรับตัวมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 161 บาท เพิ่มขึ้น 164% ถือเป็นราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ ส่วนเงาะโรงเรียน เพิ่ม 94% ทุเรียนหมอนทอง เพิ่ม 5% มะม่วงฟ้าลั่น เพิ่ม 46% และมะม่วงน้ำดอกไม้ เพิ่ม 29-40% และมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากความต้องการบริโภคผลไม้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ยังมีมาตรการที่กรมฯ ได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าภายใต้มาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2566 จำนวน 22 มาตรการ โดยมีเป้าหมายการรับซื้อผลผลิตรวม 700,000 ตัน เพื่อกระจายออกสู่ช่องทางต่างๆ ซึ่งปัจจุบันได้มีการดำเนินการแล้ว ทั้งการใช้โครงการอมก๋อยโมเดล ควบคู่ไปกับโครงการ Fruit Festival 2023 ที่นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรและนำไปจำหน่ายผ่านจุดจำหน่ายต่างๆ ทั้งในห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่น และจุดจำหน่ายอื่นๆ
ในปี 2566 คาดการณ์ผลผลิตผลไม้ในประเทศจะมีปริมาณ 6.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 0.2 ล้านตัน จากผลผลิต 6.56 ล้านตันในปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 3% โดยผลผลิตที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น ได้แก่ ทุเรียน เพิ่ม 18% มังคุด เพิ่ม 22% เงาะ เพิ่ม 4% ลองกอง เพิ่ม 80% และลำไย เพิ่ม 0.8% เป็นต้น
ล่าสุดกรมฯ ได้ขับเคลื่อนกิจกรรม พาณิชย์ Fruit Festival 2023 โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตรห้างค้าส่งค้าปลีก ได้แก่ โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ท็อปส์ และเครือข่ายพันธมิตรชมรมทายาทห้างค้าปลีก-ค้าส่งแห่งประเทศไทย (ห้างท้องถิ่น) ซึ่งมีสาขาร่วมกันกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ (ภาคอีสาน 69 สาขา ภาคใต้ 52 สาขา ภาคกลาง 41 สาขา ภาคเหนือ 38 สาขา) ทำการ Kick off กิจกรรม Fruit Festival 2023 ไปพร้อมๆ กัน โดยได้นำผลไม้จากเกษตรกรมาจัดจำหน่ายในราคาพิเศษ และเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาบริโภคผลไม้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมมือกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ เช่น สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (พีที พีทีทีสเตชัน บางจาก เชลล์) นิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการแปรรูป การเคหะแห่งชาติ ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ส่วนราชการท้องถิ่นเข้ามาช่วยระบายผลผลิตผลไม้ผ่านช่องทางที่ตัวเองมีอยู่ ทั้งการนำไปจำหน่ายในปั๊มน้ำมัน รับพรีออเดอร์ผลไม้จากนิคมอุตสาหกรรม นำไปเปิดจุดจำหน่ายที่การเคหะแห่งชาติ ส่วนราชการต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทางในการระบายผลไม้ด้วย