กรมการค้าภายในนำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ “มะม่วงน้ำดอกไม้” ในราคานำตลาดตั้งแต่ต้นฤดูกาลผลิต ปริมาณรวม 7,500 ตัน ก่อนนำกระจายผ่านช่องทางต่างๆ ดันราคาขยับขึ้นทันที เกรด AB กิโลกรัมละ 20-25 บาท เพิ่ม 29% เกรด C กิโลกรัมละ 15-20 บาท เพิ่ม 40% และเกรดส่งออก 40-50 บาท เพิ่ม 6%
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้มะม่วงน้ำดอกไม้ เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว กรมฯ จึงได้นำผู้ประกอบการเข้ารับซื้อในราคานำตลาด จากกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่แหล่งผลิตขนาดใหญ่ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร และจังหวัดพิษณุโลก ปริมาณรวม 7,500 ตัน และจะขยายเข้ารับซื้อในจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติมหากมีผลผลิตออกมากหรือล้นตลาด เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร และจากนั้นจะนำระบายออกสู่ช่องทางต่างๆ ทั้งการเปิดพรีออเดอร์มะม่วงผ่านนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นำไปเปิดจุดจำหน่ายในห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ แหล่งชุมชนต่างๆ และเปิดจุด Fruit Festival 2023 และเตรียมจัดงาน Fruit Festival 2023 เป็นปีที่ 2 เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้มีการบริโภคผลไม้เพิ่มมากขึ้น
โดยผลจากการที่กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลผลิต และกระจายออกนอกแหล่งผลิตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคามะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด AB ปัจจุบันอยู่ที่ 20-25 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 15-20 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 29% มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรด C ปัจจุบันอยู่ที่ 15-20 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 10-15 บ./กก. เพิ่มขึ้น 40% มะม่วงน้ำดอกไม้ เกรดส่งออก ปัจจุบันอยู่ที่ 40-50 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 40-45 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 6% ส่วนมะม่วงฟ้าลั่น ที่กรมฯ เข้าไปช่วยเหลือก่อนหน้านี้ ปัจจุบันอยู่ที่ 9-10 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 6-7 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 46%
ทั้งนี้ ในปี 2566 ได้คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตมะม่วงในภาพรวมจะมีปริมาณรวม 1.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% กรมฯ จึงได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน วางแผนรับมือผลผลิตที่จะออกสู่ตลาด และได้เดินหน้าโครงการ “อมก๋อยโมเดล” ควบคู่ไปกับโครงการ “Fruit Festival 2023” เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลผลิต โดยที่ผ่านมาได้นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อแล้วที่ จ.พิษณุโลก และพิจิตร ปริมาณ 16,000 ตัน และยังได้ประสานห้างท้องถิ่น ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า ตลาด เข้าไปรับซื้อด้วย รวมทั้งได้เปิดจุดจำหน่ายภายใต้ชื่อ Fruit Festival 2023 เช่น ที่อุดรธานี และหนองคาย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการทั้งสิ้น 22 มาตรการ ดูแลตั้งแต่การผลิต การตลาดในประเทศ ต่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพื่อดูแลผลผลิตผลไม้ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 6.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% โดยได้เตรียมมาตรการหาตลาดล่วงหน้าไว้รวมกว่า 700,000 ตัน และตั้งเป้าผลักดันการส่งออกผลไม้สดและแปรรูป 4.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10% รวมทั้งได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้ประกอบการผลไม้ ผู้แทนเกษตรกร ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน โลจิสติกส์ สายการบิน ผู้แทนสถาบันการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมมาตรการดูแลผลไม้ปี 2566