“พาณิชย์” ประกาศความพร้อมจัดงาน Local BCG+ Fair 2023 ใน 4 ภูมิภาค นำสินค้ากลุ่ม BCG สินค้าอัตลักษณ์ และสินค้านวัตกรรมมาจัดแสดงให้เลือกชม เลือกซื้อ ดีเดย์ภาคเหนือ 28 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ ที่เชียงใหม่ ก่อนลงใต้ ไปอีสาน ภาคกลางและตะวันออก และปิดท้ายจัดใหญ่ที่กรุงเทพฯ มั่นใจช่วยเปิดตัวสินค้าชุมชนออกสู่ตลาดได้เพิ่มขึ้น ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดจัดงาน Local BCG+ Fair 2023 ใน 4 ภูมิภาค เพื่อนำเสนอสินค้าที่อยู่ในโครงการ Local+ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ สินค้า BCG สินค้าอัตลักษณ์ และสินค้านวัตกรรม ที่กระทรวงฯ ได้ทำการคัดเลือกจากทั่วประเทศ และกำหนดนำมาจัดแสดงแยกเป็นรายภูมิภาค โดยจะเริ่มในภาคเหนือช่วงปลายเดือน เม.ย. 2566 เป็นภาคแรก และจะจัดต่อในภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออก และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ ในงาน Thailand Local BCG+ Expo 2023 ช่วงเดือนส.ค. 2566 ซึ่งจะเป็นงานใหญ่ที่รวบรวมสินค้าของดี เด่น ดัง จากทุกภูมิภาคมาจัดแสดง
สำหรับกำหนดการจัดงาน Local BCG Plus Fair 2023 ภาคเหนือ วันที่ 28 เม.ย.-1 พ.ค. 2566 ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ภาคใต้ วันที่ 10-14 พ.ค. 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 หน้าร้าน H&M ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ สงขลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันที่ 18-22 พ.ค. 2566 ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 (หน้า CPS) ศูนย์การค้าเซ็นทรัลขอนแก่น ภาคกลางและภาคตะวันออก วันที่ 14-18 มิ.ย. 2566 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 หน้า H&M ศูนย์การค้าเซ็นทรัลบางนา กรุงเทพมหานคร และที่กรุงเทพฯ ที่งาน Thailand Local BCG+ Expo 2023 ช่วงเดือน ส.ค. 2566 จัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สินค้า Local+ ที่นำไปจัดแสดงในแต่ละภูมิภาคจะเป็นของดี เด่น ดัง ในแต่ละจังหวัดที่อยู่ในภาคนั้นๆ และเป็นสินค้าที่กระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่ไปทำการคัดเลือกมา ซึ่งกำหนดไว้ใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม BCG เป็นกลุ่มสินค้าที่เน้นการผลิตโดยมุ่งรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ปกป้องสิ่งแวดล้อม การดูแลสุขภาพ สินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้าออร์แกนิก กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มอัตลักษณ์ เป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น มีความเป็นอัตลักษณ์ และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มนวัตกรรม เป็นกลุ่มที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปผลิตสินค้า ทำให้สินค้ามีความแตกต่าง โดยแต่ละภูมิภาคได้คัดเลือกมาจัดแสดงในงาน Local BCG+ Fair 2023 ภูมิภาคละ 50 สินค้า และจะปิดท้ายที่กรุงเทพฯ รวมทั้งหมด 200 สินค้า” นายกีรติกล่าว
นายกีรติกล่าวว่า การขับเคลื่อนโครงการ Local+ กระทรวงพาณิชย์มีเป้าหมายที่จะมุ่งขับเคลื่อนสินค้าใน 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม BCG กลุ่มอัตลักษณ์ และกลุ่มนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาที่ยังยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) เพราะปัจจุบันผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงในการบริโภคอาหารแบบเดิมที่พึ่งพิงการใช้สารเคมีค่อนข้างมาก และผู้นำเข้ามีมาตรการด้านสุขอนามัยที่เข้มงวด ผู้บริโภคมีความใส่ใจในการเลือกซื้อสินค้าโดยคำนึงถึงสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ทำให้เกิดกระแสรักษ์สุขภาพ ผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคสินค้า BCG สินค้าอัตลักษณ์ และนวัตกรรมขยายตัวมากขึ้นทั้งภายในและต่างประเทศ
“การขับเคลื่อนโครงการนี้ กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้คนทั้งประเทศรับรู้ว่าทุกภูมิภาคของไทยมีสินค้าที่ตอบโจทย์เทรนด์ความต้องการของตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ การปกป้องสิ่งแวดล้อม สินค้าที่มีอัตลักษณ์ สินค้าที่มีนวัตกรรม ซึ่งไทยสามารถผลิตสินค้าเหล่านี้ได้หมด และต้องการผลักดันให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ และหันมาบริโภคสินค้าในกลุ่มเหล่านี้กันมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ชุมชนผู้ผลิต และกระทรวงพาณิชย์ ไม่เพียงแต่ช่วยทำตลาดในประเทศ แต่จะช่วยผลักดันให้มีการเปิดตัวออกสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งจะช่วยนำรายได้เข้าประเทศ และช่วยเพิ่มยอดการส่งออกของประเทศต่อไป” นายกีรติกล่าว