กรมการค้าต่างประเทศเผยส่งออกข้าวไตรมาสแรกปี 66 ปริมาณ 2,063,927 ตัน เพิ่ม 18.48% มูลค่า 38,066 ล้านบาท เพิ่ม 29.26% เหตุตลาดเอเชียและแอฟริกามีความต้องการข้าวเพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการและความมั่นคงด้านอาหาร ระบุอิรักครองแชมป์นำเข้าข้าวไทยสัดส่วนสูงถึง 16.38% ส่วนมันสำปะหลังปริมาณ 3,290,000 ตัน เพิ่ม 7.17% มูลค่า 39,982.93 ล้านบาท เพิ่ม 4.81%
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าข้าวและมันสำปะหลังในไตรมาสแรกของปี 2566 (ม.ค.-มี.ค.) ขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งออกสินค้าข้าวมีปริมาณ 2,063,927 ตัน เพิ่มขึ้น 18.48% มูลค่า 38,066 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.26% โดยมีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อิรัก คิดเป็น 16.38% ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมาได้แก่ อินโดนีเซีย 13.08% สหรัฐฯ 8.62% แอฟริกาใต้ 8.24% และเซเนกัล 5.86% ตามลำดับ
ปัจจัยที่ส่งผลให้การส่งออกข้าวไทยเพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากการที่ประเทศในภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา เช่น อินโดนีเซีย บังกลาเทศ อิรัก แอฟริกาใต้ และเซเนกัล ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการข้าวในประเทศและรักษาความมั่นคงทางอาหาร ประกอบกับในปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าปริมาณผลผลิตข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นจากปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูก โดยผลผลิตข้าวนาปรังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 2566 ทำให้ราคาข้าวไทยอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ โดยกรมฯ ยังมั่นใจว่าทั้งปีจะส่งออกได้ 8 ล้านตัน
ส่วนการส่งออกสินค้ามันสำปะหลัง มีปริมาณ 3,290,000 ตัน เพิ่มขึ้น 7.17% มูลค่า 39,982.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.81% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. มันเส้น มันอัดเม็ด ปริมาณ 1,745,674 ตัน คิดเป็น 53.06% ของปริมาณการส่งออกมันสำปะหลังทั้งหมด ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน สัดส่วน 98.64% เนเธอร์แลนด์ 0.86% มาเก๊า 0.36% และญี่ปุ่น 0.08% 2. แป้งมันสำปะหลัง ปริมาณ 1,441,678 ตัน คิดเป็น 43.82% ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ จีน 47.20% ญี่ปุ่น 11.28% อินโดนีเซีย 8.06% มาเลเซีย 4.81% สหรัฐฯ 4.18% และเกาหลีใต้ 3.38% และ 3. กากมัน สาคู ปริมาณ 102,648 ตัน คิดเป็น 3.12% ตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เกาหลีใต้ 36.43% จีน 21.39% นิวซีแลนด์ 18.32% และบังกลาเทศ 2.47% โดยมันสำปะหลัง ทั้งปีคาดว่าจะส่งออกได้ 9 ล้านตัน
สำหรับการผลักดันการค้าชายแดน กรมฯ มีแผนจัดมหกรรมการค้าชายแดนโดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวม 3 โครงการ คือ 1. มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านกัมพูชา จัดที่ จ.สระแก้ว ช่วงเดือนมิ.ย. 2566 2. มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ด้านลาว จัดที่ จ.หนองคาย ช่วงเดือน ก.ค. 2566 และ 3. มหกรรมการค้าชายแดนไทย-มาเลเซีย จัดที่ จ.นราธิวาส ช่วงเดือนส.ค. 2566
ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า โดยเป็นงานแสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการในภูมิภาคและส่วนกลางที่สนใจ เช่น สินค้าจากผู้ประกอบการ OTOP และ SMEs สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเเฟรนไชส์ และสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน การฝึกอบรม สัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อให้ความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการประกอบธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพด้านการค้าต่างประเทศ กฎระเบียบ สิทธิประโยชน์ การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า มาตรการทางการค้า และการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน