กรมการค้าภายในโชว์ผลงานนำผู้ประกอบการรับซื้อมะม่วงฟ้าลั่นใน จ.พิจิตรและพิษณุโลก ล่าสุดรับซื้อแล้วกว่า 5,000 ตัน ก่อนนำระบายผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งเปิดพรีออเดอร์ เปิดจุดจำหน่ายในแหล่งชุมชน ขายในงาน Fruit Festival 2023 ล่าสุดดันราคาขยับเป็นกิโลกรัมละ 9-10 บาท สูงกว่าปีก่อนที่ 6-7 บาท เพิ่มขึ้น 46%
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-20 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมากรมฯ ได้นำผู้ประกอบการเข้ารับซื้อมะม่วงฟ้าลั่นในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก ที่ทยอยออกสู่ตลาดตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. 2566 แล้วกว่า 5,000 ตัน และจะขยายการเข้ารับซื้อในจังหวัดอื่นๆ เพิ่มเติม หากมีผลผลิตออกมาก หรือผลผลิตล้นตลาด เพื่อช่วยระบายผลผลิตมะม่วงให้แก่พี่น้องเกษตรกรผ่านช่องทางต่างๆ ตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 ที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่น การเปิด Pre-order มะม่วง ผ่านนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศ การเปิดจุดจำหน่ายในแหล่งชุมชนต่างๆ และนำไปขายในงาน Fruit Festival 2023 เพื่อระบายผลผลิตมะม่วงให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้ ผลจากการที่กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อผลผลิตมะม่วงฟ้าลั่น ตั้งแต่ต้นฤดู และกระจายออกนอกแหล่งผลิตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคามะม่วงฟ้าลั่นในปัจจุบันอยู่ที่ 9-10 บาท/กิโลกรัม (กก.) สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 6-7 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 46% ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้ ปัจจุบันอยู่ที่ 30 บาท/กก. สูงกว่าปีที่ผ่านมาที่ 25 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 20%
ในปี 2566 คาดการณ์ปริมาณผลผลิตมะม่วงในภาพรวมจะมีปริมาณ 1.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% กรมฯ จึงได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน เตรียมพร้อมมาตรการรับมือ โดยได้ใช้โครงการ อมก๋อยโมเดล ประสานผู้ประกอบการ ห้างค้าส่งค้าปลีก ผู้ส่งออก เข้าไปรับซื้อมะม่วงจากเกษตรกรในราคานำตลาด ซึ่งได้นำร่องที่จังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก ปริมาณ 16,000 ตัน และได้ประสานห้างท้องถิ่นเข้าไปรับซื้อด้วย จากนั้นได้นำระบายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โมบายล์พาณิชย์ 100 จุดทั่วกรุงเทพฯ และเปิดจุดจำหน่ายภายใต้ชื่อ Fruit Festival 2023 ที่อุดรธานี และหนองคาย
ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมีมาตรการทั้งสิ้น 22 มาตรการ ดูแลตั้งแต่การผลิต การตลาดในประเทศ ต่างประเทศ และด้านกฎหมาย เพื่อดูแลผลผลิตผลไม้ที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 6.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% โดยได้เตรียมมาตรการหาตลาดล่วงหน้าไว้รวมกว่า 700,000 ตัน และตั้งเป้าผลักดันการส่งออกผลไม้สดและแปรรูป 4.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10% รวมทั้งได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ผู้ประกอบการผลไม้ ผู้แทนเกษตรกร ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมัน โลจิสติกส์ สายการบิน ผู้แทนสถาบันการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมมาตรการดูแลผลไม้ปี 2566 ไว้ล่วงหน้าแล้ว