อคส.เฮต่อเนื่อง ศาลตัดสินชนะคดีแพ่งทุจริตจำนำข้าวโพด 1 คดี และข้าวเปลือกอีก 1 คดี ได้เงินชดใช้ความเสียหาย 245 ล้านบาท แต่ยังไม่ครบ เดินหน้าอุทธรณ์ต่อ สรุปล่าสุด ฟ้องทุจริตข้าวโพด 5 คดี ชนะแล้ว 3 คดี ข้าว 1,179 คดี ชนะแล้ว 37 คดี มัน 172 คดี ชนะแล้ว 85 คดี
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีแพ่ง และอาญาผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ทั้งข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และอื่น ๆ เฉพาะในส่วนที่ อคส. รับผิดชอบตั้งแต่ปี 2524 ว่า เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2566 ที่ผ่านมา ศาลปกครองกลาง ได้อ่านคำพิพากษาให้ อคส. ชนะคดีที่ อคส. ได้ฟ้องแย้งเจ้าของคลังสินค้าฝากเก็บข้าวโพดในโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2551/52 เมื่อเดือนมี.ค.2564 เรียกค่าเสียหายรวม 812 ล้านบาท หลังจากเจ้าของคลังรายนี้ ได้ฟ้องร้อง อคส. เมื่อเดือนมี.ค.2562 เรียกเงินค่าฝากเก็บข้าวโพด 100 ล้านบาท รวมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี
“คดีนี้ อคส. ได้รับชดใช้ค่าเสียหาย 240 ล้านบาท ยังมีผลต่างอีกกว่า 572 ล้านบาท ซึ่งจะอุทธรณ์ในชั้นศาลปกครองสูงสุด มั่นใจว่า มีข้อมูลเพิ่มเติมและหลักฐานสำคัญเรียกเก็บเงินเติมให้ครบแน่นอน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ”
ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้ อคส. ชนะคดีทุจริตโครงการจำนำข้าวเปลือกปี 2548/49 อีก 1 คดี ได้ทุนทรัพย์ 5.67 ล้านบาท และศาลจังหวัดหลังสวน ได้ออกหมายบังคับคดี ยึดอายัดทรัพย์สินจากคู่สัญญาซื้อขายทุเรียนกับ อคส. 27.04 ล้านบาท ซึ่ง อคส. จะเร่งบังคับคดีเรียกชำระคืนความเสียหายต่อไป
สำหรับโครงการรับจำนำข้าวโพด ปี 2551/52 ใช้งบประมาณ 8,350 ล้านบาท รับจำนำข้าวโพด 1 ล้านตัน กิโลกรัม (กก.) ละ 8.20 บาท และ 8.50 บาท อคส. ขาดทุนจากการดำเนินการ 6,300 ล้านบาท และได้ฟ้องร้องดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริต 5 คดี ความเสียหาย 1,449 ล้านบาท ซึ่ง อคส. ชนะแล้ว 3 คดี
นายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า โครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ตั้งแต่ปี 2524 เฉพาะที่ดำเนินการโดย อคส. มี 37 โครงการ ซึ่ง อคส. ได้ฟ้องร้องดำเนินคดี ทั้งแพ่ง และอาญา ประมาณ 1,400 คดี ความเสียหาย 526,048 ล้านบาท หากรวมผลขาดทุนจากการขายสินค้าเกษตรในโครงการจำนำอีก 584,337 ล้านบาทแล้ว อคส. มีความเสียหายสูงถึง 1.11 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้ เป็นความเสียหายจากโครงการปี 2551 และปี 2554-57 รวม 9 โครงการ รวม 1.05 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นแล้ว 522,085 ล้านบาท และอยู่ระหว่างฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายอีก 524,394 ล้านบาท
สำหรับคดีฟ้องร้องประมาณ 1,400 คดี เป็นคดีทุจริตจำนำข้าวปี 2551-57 รวม 1,179 คดี ความเสียหาย 503,809 ล้านบาท อคส. ชนะคดีแพ่ง 37 คดี เงินชดเชย 2,345 ล้านบาท , คดีทุจริตมันสำปะหลังปี 2551-57 รวม 172 คดี ความเสียหาย 20,585 ล้านบาท อคส. ชนะ 85 คดี ชดเชย 6,060 ล้านบาท , คดีทุจริตข้าวโพด ปี 2551-57 รวม 5 คดี ความเสียหายกว่า 1,449 ล้านบาท อคส.ชนะ 3 คดี และทุจริตจำนำสินค้าเกษตรอื่น ๆ ตั้งแต่ปี 2524 อีก 20 คดี ความเสียหายกว่า 204 ล้านบาท
“โครงการรับจำนำแทบทุกโครงการ ล้วนเกิดทุจริตและการเอารัดเอาเปรียบ แสวงหาผลประโยชน์โดยคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มเดียว แต่สร้างความเสียหายและสร้างภาระให้คนรุ่นต่อไปมากมาย โดยเฉพาะ อคส. ที่ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่าจะพ้นวิบากกรรมนี้เมื่อไร”นายเกรียงศักดิ์กล่าว
ทางด้านการเอาผิดเจ้าหน้าที่ อคส. ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการจำนำสินค้าเกษตร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ชี้มูลความผิดจำนวนมาก ซึ่งมีความผิดวินัยร้ายแรง ถึงขั้นไล่ออกแล้ว 18 ราย แต่ได้มีการฟ้องร้อง อคส. ต่อศาลแรงงาน รวม 6 คดี และศาลตัดสินให้กลับเข้าทำงานใน อคส. แล้ว 1 ราย