“จุรินทร์” อัปเดตโครงการประกันรายได้ปี 4 เดินหน้าได้ครบทุกชนิดแล้ว เผยมันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ไม่ต้องจ่ายส่วนต่าง หลังราคาดีเกินเกณฑ์ประกัน ส่วนข้าวบางชนิดเกิน ราคาใกล้เคียงที่ประกันเอาไว้ และยางพาราเริ่มจ่ายส่วนต่างแล้ว ชาวสวนยางอัปสมุดบัญชีกับ ธ.ก.ส.ได้เลย
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการประกันรายได้ ปี 4 ที่บริเวณหน้าตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล ว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้เดินหน้าปี 4 ทุกตัว แต่ตอนนี้การจ่ายเงินส่วนต่างในส่วนของมันสำปะหลัง ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ไม่มี เพราะราคาดีมาก มันสำปะหลัง ประกันราคาที่ 2.50 บาท/กิโลกรัม (กก.) ตอนนี้ไป 3 บาทกว่าเกือบ 4 บาท/กก. ข้าวโพดประกันรายได้ที่ 8.50 บาท/กก. ตอนนี้ไป 12 บาท/กก. ส่วนปาล์มน้ำมัน ประกันรายได้ 4 บาท/กก. ตอนนี้ 5-6 บาท/กก. ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ถือว่าดี
สำหรับข้าว ราคาเกือบถึงราคาที่ประกัน ถือว่ายังราคาดีอยู่ แต่ข้าวบางตัวราคาสูงกว่าที่ประกันรายได้เอาไว้แล้ว และยางพารา ซึ่งเป็นตัวสุดท้าย โครงการปี 4 กำลังอยู่ระหว่างการจ่ายเงินส่วนต่าง ซึ่งได้เริ่มจ่ายส่วนต่างแล้ว จึงขอเรียนข่าวดีให้พี่น้องชาวสวนยางทั่วประเทศ โดยเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. 2566 และจะทยอยจ่ายไปจนถึงสิ้นเดือน พ.ค. 2566 มีวงเงินเตรียมไว้แล้ว 7,000 กว่าล้านบาท เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้ว ขอให้พี่น้องชาวสวนยางอัปเดตสมุดบัญชีกับ ธ.ก.ส.ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การจ่ายเงินส่วนต่างข้าว ปัจจุบันจ่ายมาถึงงวดที่ 26 จากทั้งหมด 33 งวด โดยราคาข้าวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยงวดที่ 26 จ่ายส่วนต่างเพียง 2 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ส่วนข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว ไม่ต้องจ่าย เพราะราคาตลาดสูงกว่าราคาที่ประกันรายได้เอาไว้ และข้าวหอมมะลิ ไม่มีการจ่ายชดเชย เพราะสิ้นสุดฤดูกาลผลิตไปแล้ว
ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีการประกาศส่วนต่างไปแล้ว 5 งวดรวด โดยไม่มีการจ่ายชดเชย เพราะราคาสูงกว่าเกณฑ์ที่ประกันรายได้ และคาดว่าในอีก 7 งวดที่เหลือ ราคาก็จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อไป ทำให้มีแนวโน้มที่จะไม่ต้องจ่ายชดเชยไปจนสิ้นสุดฤดูกาล รวมถึงมันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน ที่ปัจจุบันราคาทรงตัวอยู่ในระดับสูงเกินกว่าที่ประกันรายได้เอาไว้