xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” แนะศึกษาเทรนด์ของเล่นในสหรัฐฯ ปี 66 ก่อนวางแผนผลิตส่งออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เผยเทรนด์ตลาดของเล่นสหรัฐฯ ปี 66 สินค้าที่สร้างจากตัวละครในหนังและทีวี ของเล่นคลาสสิกรุ่นพ่อแม่ สินค้าที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมและรีไซเคิลได้ ได้รับความนิยมสูง ชี้ชาวอเมริกันยังนิยมสมัครสมาชิกรับของเล่นต่อเนื่อง ทั้งรายเดือน รายปี นิยมกล่องของเล่นสุ่ม ของเล่นที่นำเทคโนโลยีมาใช้ และของเล่นที่เสริมทักษะให้ลูก แนะผู้ประกอบการไทยศึกษาวางแผนผลิตและส่งออก

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในประเทศที่ตนเองประจำอยู่อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้รับข้อมูลจาก น.ส.เกษสุรีย์ วิจารณกรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ ถึงเทรนด์ตลาดของเล่นในสหรัฐฯ ปี 2566 เพื่อแจ้งให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกสินค้าของเล่นของไทยได้ทำการศึกษาแนวโน้มและทิศทางของเล่นในตลาดสหรัฐฯ และนำมาปรับใช้ในการวางแผนการผลิตและส่งออกสินค้าของเล่นไทยเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ

ทั้งนี้ ทูตพาณิชย์ได้รายงานว่า บริษัทวิจัยการตลาด The NPD Group มีการคาดการณ์ว่าการจำหน่ายสินค้าของเล่นและเกมของสหรัฐฯ ในปี 2566 น่าจะมีการเติบโตขึ้นถึง 31,260 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มจากปี 2564 ที่มีมูลค่า 29,200 ล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าช่วงปี 2566-2570 จะมีการขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 4.51 ต่อปี ทำให้ตลาดของเล่นในสหรัฐฯ ยังคงมีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับเทรนด์ของเล่นที่น่าสนใจและมีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคสหรัฐฯ ในปี 2566 ได้แก่ อิทธิพลของภาพยนตร์และรายการทีวี โดยของเล่นที่สร้างจากตัวละครในภาพยนตร์และทีวีมียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 19 แต่ของเล่นที่ไม่อิงกับภาพยนตร์และทีวีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ความต้องการสินค้าของเล่นคลาสสิก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากพ่อแม่สู่ลูก โดยต้องการชดเชยความสูญเสียบางส่วนในตอนที่เป็นเด็ก หาของเล่นในยุคตนเองมาแนะนำให้กับลูก เช่น รถบรรทุก ตุ๊กตาหมี และผู้บริโภคสหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญต่อของเล่นที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หากใช้พลาสติกที่รีไซเคิลได้หรือวัสดุชีวภาพก็จะได้รับความนิยม

นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังให้ความนิยมในการสมัครสมาชิกเพื่อรับของเล่นอย่างต่อเนื่อง มีรูปแบบทั้งรายเดือน รายปี นิยมการเปิดกล่องสุ่มที่ช่วยสร้างประสบการณ์ตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าสินค้าที่ส่งมาคืออะไร นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมาช่วยดึงดูดผู้บริโภค เช่น การตั้งโปรแกรมให้สร้างเกม เล่าเรื่องราว ผ่านแอปพลิเคชัน มีระบบจดจำใบหน้า สิ่งของ และสนทนาได้ ผสมผสานเทคโนโลยีกับการเรียนรู้ และผู้ปกครองนิยมหาของเล่นที่เสริมทักษะให้ลูกมากขึ้น

“จากแนวโน้มและทิศทางความต้องการของเล่นในตลาดสหรัฐฯ ดังกล่าว ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยต้องศึกษา และนำมาปรับใช้ในการวางแผนการผลิต การออกแบบ และส่งออกสินค้าของเล่นของไทยไปตลาดสหรัฐฯ เพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มขึ้น และรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมของเล่นในสหรัฐฯ หากทำได้ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น” นายภูสิตกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น