xs
xsm
sm
md
lg

เคาะแล้ว! ส่วนต่างข้าวงวดที่ 23 ชดเชย 3 ชนิด เงินเข้า 22 มี.ค. ได้สิทธิ์ 5,903 ครัวเรือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์”เคาะส่วนต่างประกันรายได้ข้าว งวดที่ 22 จ่ายชดเชย 3 ชนิด “ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่-ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี-ข้าวเปลือกเจ้า” เงินเข้าบัญชี 22 มี.ค.นี้ มีเกษตรกรได้รับเงิน 5,903 ครัวเรือน ส่วนอีก 2 ชนิดไม่ต้องจ่าย ข้าวเปลือกเหนียว ราคาทะลุเพดานประกัน ข้าวเปลือกหอมมะลิ สิ้นสุดฤดูกาล

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/66 งวดที่ 23 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 11-17 มี.ค.2566 โดยมีการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเจ้า ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่ต้องจ่าย เพราะราคาสูงกว่าเป้าหมาย และข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่ต้องจ่าย เพราะสิ้นสุดฤดูเก็บข้าว

โดยข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ เกณฑ์กลางตันละ 13,612.20 บาท ชดเชยตันละ 387.80 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 6,204.80 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี เกณฑ์กลางตันละ 10,914.64 บาท ชดเชยตันละ 85.36 บาทได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 2,134.00 บาท ข้าวเปลือกเจ้า เกณฑ์กลางตันละ 9,918.67 บาท ชดเชยตันละ 81.33 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 2,439.90 บาท ข้าวเปลือกเหนียว เกณฑ์กลางตันละ 12,190.67 บาท สูงกว่าประกันรายได้ที่ตันละ 12,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิ ไม่มีการคำนวณส่วนต่าง เพราะสิ้นสุดฤดูกาล

ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 22 มี.ค.2566 โดยมีเกษตรกรได้รับชดเชยตามข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรงวดนี้ จำนวน 5,903 ครัวเรือน


นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์ผลผลิตและราคาข้าว ผู้แทนสมาคมโรงสีข้าวไทย ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ข้าวนาปรังเริ่มทยอยออกสู่ตลาด และจะออกสู่ตลาดมากในช่วงต้นเดือนเม.ย.2566 ส่งผลให้ข้าวเจ้าราคาอ่อนตัวลงเล็กน้อย ส่วนสมาคมค้าข้าวไทยให้ข้อมูลว่าข้าวเจ้าเป็นข้าวที่มีการซื้อขายกันในตลาดมากที่สุดในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ราคามีการปรับขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ตามความต้องการของตลาด แต่ยังคงมีความต้องการจากผู้ส่งออกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับสถานการณ์การส่งออก ผู้แทนกรมการค้าต่างประเทศให้ข้อมูลว่าช่วงต้นปีมีทิศทางที่ดี โดยปริมาณการส่งออกถึงวันที่ 15 มี.ค.2566 สามารถส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 1.69 ล้านตัน เนื่องจากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่ดีขึ้น ทำให้สามารถส่งออกได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม และอินเดีย ที่เริ่มมีนโยบายให้เก็บข้าวไว้บริโภคภายในประเทศ ทำให้การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะสามารถส่งออกได้มากกว่าปีที่ผ่านมา อาจจะได้ถึง 8 ล้านตัน โดยประมาณ

ส่วนการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 1-22 ที่ผ่านมา มีเกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างประกันรายได้แล้วกว่า 2.622 ล้านครัวเรือน วงเงิน 7,858.91 ล้านบาท และการช่วยเหลือไร่ละพันบาท เกษตรกรได้รับเงินแล้วกว่า 4.640 ล้านครัวเรือน วงเงิน 53,990.75 ล้านบาท สำหรับเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์แต่ยังไม่ได้รับเงิน ขอให้ ติดต่อธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาใกล้บ้าน เพื่อให้ ธ.ก.ส. ตรวจสอบต่อไป

ทั้งนี้ กรมฯ จะเพิ่มการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569


กำลังโหลดความคิดเห็น