สมาคมผู้ค้า LPG วอนรัฐเร่งดูแลปัญหาปั๊ม LPG ลักลอบเติมก๊าซในถังหุงต้มที่อาจมีแนวโน้มสูงขึ้นหลังการปรับราคาเพิ่มอีก 1 บาท/กก. หรือราคาแนะนำไปแตะที่ 423 บาทต่อถัง 15 กก. มีผล 1-31 มี.ค.นี้ เหตุผู้มีรายได้น้อยมีเงินไม่เพียงพอในการซื้อเต็มถัง ลุ้นรัฐตรึงราคา LPG เดือน เม.ย. 66
นายนรุตม์ ภัทรชัยพร นายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เปิดเผยว่า สมาคมฯ ต้องการให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องช่วยเร่งดูแลปัญหาการนำถังก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ LPG ภาคครัวเรือนไปเติมในสถานีบริการ LPG ในรถยนต์ที่ขณะนี้มีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากราคา LPG ได้ปรับขึ้นต่อเนื่องจนทำให้ประชาชนบางส่วนที่มีรายได้น้อยหันไปเติมในปั๊ม LPG แทนเพราะสามารถจ่ายเงินตามที่พอมีเช่น 100-200 บาทต่อครั้งไม่อาจซื้อเต็มถังที่ราคาแพงได้ ซึ่งคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังจากราคาขายปลีก LPG จะปรับขึ้นอีก 1 บาท/กิโลกรัม (กก.) หรือราคาจะเป็น 423 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลตั้งแต่ 1-31 มี.ค. 66 นี้ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อ 18 ม.ค. 66
“ผมอยากให้รัฐเร่งดูแลเพราะปัญหานี้ยังคงมีอยู่ซึ่งปั๊ม LPG บางแห่งทำให้ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย โดยระเบียบกำหนดไว้ชัดว่าปั๊ม LPG จะต้องเติมให้กับถัง LPG สำหรับรถยนต์เท่านั้น และที่สำคัญวิธีการดังกล่าวไม่ปลอดภัยและเป็นอันตรายต่อผู้ไปเติมและปั๊มเองด้วยเพราะถังดังกล่าวอาจจะไม่ได้ถูกเวียนนำไปบำรุงรักษา” นายนรุตม์กล่าว
สำหรับการปรับขึ้นราคา LPG 1 มี.ค. 66 ทางร้านค้าได้รับทราบล่วงหน้าและเตรียมปรับขึ้นซึ่งราคา 423 บาทต่อถังนั้นเป็นราคาแนะนำในพื้นที่ กทม. แต่ราคาในพื้นที่อื่นๆ ก็จะแตกต่างกันไปโดยจะต้องบวกกับค่าขนส่งที่ขึ้นอยู่กับระยะทาง รวมถึงการขนขึ้นตึกสูงที่จะเป็นการตกลงกับผู้บริโภค ซึ่งยอมรับว่าปัจจุบันค่าการตลาดของผู้ค้า LPG ส่วนใหญ่ที่เป็นร้านค้ารายย่อยนั้นไม่ได้สูงนัก ขณะที่ต้นทุนต่างๆ ยังคงเพิ่มขึ้นมากทั้ง ค่าแรง ค่าน้ำมัน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่รัฐกำหนด เช่นล่าสุดร้านค้า LPG ประเภทที่ขออนุญาตต้องติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิงด้วยน้ำแบบอัตโนมัติ (Sprinkler) เพื่อความปลอดภัย เป็นต้น
“ก่อนหน้านั้นต้นทุนต่างๆ สูงขึ้นมาก ผู้ค้าเองไม่อยากให้กระทบต่อประชาชนเราก็แบกภาระส่วนหนึ่งอยู่แล้วแม้ว่าดีเซลวันนี้จะลด 1 บาทต่อลิตรก็ตาม เช่นเดียวกับค่าแรงผู้ค้า LPG จ่ายสูงกว่าขั้นต่ำเพราะหาแรงงานยาก และราคา LPG ที่แพงขึ้นก็มีผลต่อประชาชนที่ใช้ประหยัดมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งการปรับขึ้นราคาประชาชนทั่วไปมีความเข้าใจดีถึงตลาดโลกที่ราคาแพงแต่หาก เม.ย. รัฐตรึงราคาได้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งทั้งนี้ก็คงอยู่ที่รัฐจะพิจารณาความเหมาะสม” นายนรุตม์กล่าว
ปัจจุบันร้านค้าปลีก LPG ทั่วประเทศมีราว 3 หมื่นแห่งซึ่งยอมรับว่าธุรกิจดังกล่าวค่อนข้างมีอุปสรรคมากทั้งระเบียบใหม่ๆ และต้นทุนต่างๆ ที่สูงทำให้ร้านค้าเดิมที่มีเจ้าของอายุมากแล้วจะถอดใจเริ่มทยอยปิดตัวลงบ้าง ส่วนรายใหม่ๆ ที่จะเปิดขึ้นตามหมู่บ้านที่สร้างใหม่ๆ ยังมีอยู่แต่หากเทียบกับอดีตก็จะมีอัตราการเติบโตที่น้อยลง ขณะที่เหลืออยู่ก็ต้องปรับตัวในเรื่องของต้นทุนต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซ LPG แก่ผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้นหากร้านค้าใดสามารถปรับตัวในการรับบัตรได้ก็จะมีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านค้าแต่หากร้านใดปรับตัวไม่ได้ก็จะมีปัญหายุ่งยากพอสมควร ซึ่งปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้ขยายเวลาให้ส่วนลดค่าซื้อ LPG แก่ร้านค้าหาบเร่ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 100 บาท/คน/เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 2566