ก.พลังงานเตรียมปรับแผนการอุดหนุนน้ำมันผสมเอทานอลจากทยอยเลิกอุดหนุนชั่วคราวโดยเฉพาะ E20 และ E85 หลังฐานะกองทุนน้ำมันฯ เริ่มดีขึ้น โดยขอดู OIL Plan ประกอบการขับเคลื่อนเร็วๆ นี้ ขณะที่ผู้ผลิตหวังรัฐเร่งกลับมาสนับสนุนเพิ่มการใช้ รับปี 66 เอทานอลยังทรงตัวระดับสูงเฉลี่ย 29 บาท/ลิตร เหตุวัตถุดิบโมลาส มันฯ ราคาสูง หนุนรัฐเลิกโซฮอล์ 91 ดัน E20เป็นน้ำมันพื้นฐาน
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการเลิกการอุดหนุนน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพในส่วนของเอทานอลลงโดยเฉพาะแก๊สโซฮอล์ E20 และ E85 จากเดิมที่เคยอุดหนุนในสัดส่วนที่สูงเป็นจัดเก็บ 0.01 บาทต่อลิตร ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 เก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ 2 บาทต่อลิตร โดยแนวทางดังกล่าวจะดำเนินงานในระยะสั้นๆ เพื่อบริหารสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ที่ติดลบราว 1.08 แสนล้านบาท ประกอบกับส่วนหนึ่งอยู่ระหว่างรอความชัดเจนของแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan 2022) ประกอบการดำเนินงานโดยคาดว่าจะชัดเจนในเร็วๆ นี้
"รัฐได้หารือกับเอกชนใกล้ชิดและยืนยันว่าจะยังคงสนับสนุนการใช้เอทานอลต่อไป เพียงแต่ระยะสั้นด้วยกองทุนฯ ที่ติดลบ ขณะที่เอทานอลช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างสูงจึงจำเป็นต้องบริหารให้เกิดความสมดุลในทุกส่วน แต่ระยะนี้กองทุนฯ เริ่มดีขึ้นจากก่อนหน้านี้เราเก็บเงินเข้ากองทุนฯ E20 และ E85 0.31 บาทต่อลิตรเราก็เหลือเก็บแค่ 0.01 บาทต่อลิตรล่าสุด และเมื่อ Oil Plan ชัดเจนขึ้นก็จะมีแนวทางส่งเสริมการใช้ต่อไป ซึ่งตามกฎหมายได้ขยายเวลาอุดหนุนราคาน้ำมันชีวภาพออกไปอีก 2 ปีถึง 24 ก.ย. 67 โดยจะทำควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
นายพิพัฒน์ สุทธิวิเศษศักดิ์ นายกสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า แนวทางการยกเลิกการอุดหนุนและส่วนต่างราคาที่ลดลงเมื่อเทียบกับอดีตยอมรับว่าจะไม่จูงใจให้หันมาใช้ E20 และ E85 ที่มีส่วนผสมเอทานอลในปริมาณที่สูงกว่าซึ่งอาจกระทบต่อปริมาณการใช้ที่ลดลงระยะสั้น ดังนั้นคงต้องติดตามนโยบายจากภาครัฐเป็นสำคัญ
สำหรับราคาเอทานอลปี 2566 คาดว่าจะทรงตัวระดับสูงราว 29 บาทต่อลิตรเนื่องจากวัตถุดิบการผลิตเอทานอลจากโมลาส (กากน้ำตาล) ที่ประเมินว่าฤดูผลิตปี 65/66 ที่อยู่ระหว่างเปิดหีบจะอยู่ราว 5,100 บาทต่อตันจากฤดูหีบที่ผ่านมาอยู่ราว 4,200 บาทต่อตันถือเป็นระดับราคาที่สูงขึ้น แต่ยืนยันในแง่ของปริมาณจะไม่ขาดแคลนแต่อย่างใด
ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานเอทานอลทั้งจากมันสำปะหลังและกากน้ำตาล (โมลาส) รวม 27 แห่ง กำลังการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่การใช้เอทานอลเฉลี่ยอยู่ที่เพียง 4 ล้านลิตรต่อวันเท่านั้น ดังนั้นผู้ผลิตจึงอยู่ระหว่างการหารือที่จะให้ภาครัฐอนุญาตให้ผู้ผลิตเอทานอลจากเดิมกำหนดให้จำหน่ายแก่ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เท่านั้น เป็นสามารถจำหน่ายให้อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เคมี ยา และอาหาร ได้ด้วย
น.ส.สุรียส โควสุรัตน์ นายกสมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง กล่าวว่า วัตถุดิบการผลิตเอทานอลทั้งจากโมลาสและมันฯปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยมันสดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.50 บาทต่อกิโลกรัมซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงผิดปกติ โดยราคาพืชผลทางการเกษตรต่างๆ มีการปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่ผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ราคาเอทานอลปีนี้ยังคงทรงตัวระดับสูง อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเอทานอลถือว่ามีส่วนสำคัญต่อการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร
“เราได้หารือภาครัฐใกล้ชิดและรัฐเองยืนยันว่าจะยังส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพอยู่หากแต่ระยะสั้นจำเป็นต้องบริหารภาระหนี้กองทุนน้ำมันชั่วคราว” น.ส.สุรียสกล่าว
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ได้เสนอรัฐที่ต้องการให้ลดชนิดน้ำมันลงโดยกำหนดให้แก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเกรดพื้นฐานในกลุ่มน้ำมันเบนซิน และให้เหลือแก๊สโซฮอล์ 95 โดยยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 ส่วนแก๊สโซฮอล์ E85 เป็นน้ำมันทางเลือก พร้อมกับเพิ่มส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการใช้แก๊สโซฮอล์ E20