กรมทรัพย์สินทางปัญญาจับมือภาครัฐ สถานทูตสหรัฐฯ ผู้แทนอียู และเอกชนเจ้าของสิทธิ์ ลงพื้นที่ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค สำรวจการจำหน่าย รณรงค์ผู้ค้า และประชาชน ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้ของปลอม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คู่ค้า นักลงทุน และต้อนรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว พร้อมโชว์สถิติจับกุมปี 65 จำนวน 5,827 คดี ของกลาง 2,308,176 ชิ้น เสียหายกว่า 1 พันล้าน
นายอาวุธ วงศ์สวัสดิ์ รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมฯ ได้ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ สถานทูตสหรัฐอเมริกา (US Embassy) ผู้แทนสหภาพยุโรป (EU) พร้อมด้วยภาคเอกชนเจ้าของสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา และศูนย์การค้า เอ็ม บี เค ลงพื้นที่สำรวจการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภายในพื้นที่ศูนย์การค้า และรณรงค์สร้างความเข้าใจแก่ผู้ค้า ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ให้ตระหนักถึงผลกระทบและความเสียหายจากการจำหน่าย การใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการใช้สินค้าด้อยคุณภาพและไม่ได้มาตรฐาน
“การบูรณาการทำงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการป้องปรามการจำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจัง โดยที่ผ่านมา ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค มีมาตรการยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่ กรณีร้านค้าที่ถูกจับกุมเรื่องการขายสินค้าละเมิด นำมาสู่การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศคู่ค้า นักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มมากขึ้น” นายอาวุธกล่าว
ทั้งนี้ ในปี 2565 (ม.ค.-ธ.ค.) มีการปราบปรามและดำเนินคดีต่อสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสิ้น 5,827 คดี ของกลางจำนวน 2,308,176 ชิ้น มูลค่าความเสียหายรวม 1,058,201,923 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2564 จำนวนคดีเพิ่มขึ้น 3,958 คดี หรือเพิ่มขึ้น 211.77% และของกลางลดลง 2,816,225 ชิ้น หรือลดลง 54.96% โดยหากประชาชนพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา สามารถแจ้งเบาะแสมายังกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 0-2547-4702 หรือสายด่วน 1368 หรือ www.ipthailand.go.th