WHA ตั้งเป้ารายได้รวม 5 ปี (65-70) ที่ 100,000 ล้านบาท อัดงบลงทุนรวม 68,500 ล้านบาทภายใน 5 ปี ลั่นปี 66 มีรายได้เติบโตขึ้นทำสถิติสูงสุด และวางเป้าขายที่ดินรวม 1,750 ไร่ ลุ้นปิดดีลขายที่ดินให้บริษัทรถยนต์รายใหญ่ภายในกลางปีนี้
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ (ปี 2566-70) จะอยู่ที่ 100,000 ล้านบาท จากปี 2565 ที่ทำได้ประมาณ 15,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจและยังคงเป้ารักษาอัตรากำไร EBITDA สูงกว่า 40% โดยในปี 2566 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้นตัวเลข 2 หลักเมื่อเทียบจากปีก่อน และถือเป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All time high) ต่อเนื่องจากปี 2565 ที่เติบโตกว่า 31% โดยธุรกิจหลักที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงานปีนี้มาจากยอดขายที่ดินในนิคมฯ และธุรกิจโลจิสติกส์ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนรวม 68,500 ล้านบาทภายใน 5 ปีนี้ แบ่งเป็นงบลงทุนสำหรับ 4 กลุ่มธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้แก่ โลจิสติกส์ จำนวน 17,000 ล้านบาท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำนวน 29,000 ล้านบาท บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) จำนวน 18,500 ล้านบาท และดับบลิวเอชเอ ดิจิทัล จำนวน 4,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทยังคงรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) สูงกว่าร้อยละ 40
นางสาวจรีพรกล่าวว่า ในปี 2565 บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศไทยและเวียดนามอยู่ที่ 1,750 ไร่ แบ่งเป็นยอดขายที่ดินในไทย 1,200 ไร่ และเวียดนาม 550 ไร่ เมื่อเปรียบเทียบปีก่อนที่บริษัทมียอดขายที่ดินรวม 1,860 ไร่ แบ่งเป็นการขายที่ดินในไทย 1,754 ไร่ และ 106 ไร่ในเวียดนาม สูงกว่ายอดขายที่ดินรวมในปี 2564 ที่ 855 ไร่ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 117.5
ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาขายที่ดินให้บริษัทยานยนต์ข้ามชาติรายใหญ่ระดับโลก ซึ่งมีขนาดยอดขายใกล้เคียงกับ BYD ปีก่อนที่ราว 600 ไร่ ซึ่งอาจเห็นความชัดเจนในช่วงกลางปีนี้ และหากปิดดีลสำเร็จก็จะปรับเป้าหมายการขายที่ดินเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ ธุรกิจโลจิสติกส์ได้ตั้งเป้าขยายธุรกิจในประเทศไทย และแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในเวียดนาม โดยมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง ได้แก่ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเฮลท์แคร์ ผ่านการประสานความร่วมมือกับ Key Player ระดับภูมิภาคและระดับโลก
ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีการส่งมอบโครงการใหม่และสัญญาใหม่ คิดเป็นพื้นที่รวม 200,000 ตารางเมตรให้แก่กลุ่มลูกค้า พร้อมทั้งตั้งเป้าขายสินทรัพย์พื้นที่ 142,000 ตารางเมตรให้แก่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) คาดว่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 3,250 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจสาธารณูปโภคให้เติบโตต่อเนื่องทั้งภายในและภายนอกนิคมฯ ทั้งในไทยและเวียดนาม โดยในปี 2566 WHAUP มีเป้าหมายปริมาณน้ำประปาและการจัดการน้ำเสียทั้งหมดรวม 168 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งโดยส่วนใหญ่มาจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้นจากผู้ใช้อุตสาหกรรมรายใหญ่ ที่ได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อขายน้ำในปี 2565
ส่วนธุรกิจด้านพลังงาน WHAUP มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจในประเทศไทย เวียดนาม โดยแสวงหาโอกาสใหม่ๆ กับธุรกิจ New S-Curve เช่น ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (BESS) ไฮโดรเจน การซื้อขายคาร์บอนและการใช้และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) ในปี 2566 WHAUP ตั้งเป้าสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ที่ลงนามแล้ว 847 เมกะวัตต์ เพิ่มจาก 683 เมกะวัตต์ในปี 2565 และเร่งเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายสัญญาซื้อขายไฟฟ้าที่ลงนามแล้ว 300 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจดิจิทัลคาดว่าในช่วงไตรมาส 2/2566 จะมีการเปิดตัวแอปพลิเคชัน WHAbit หรือโซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลท์แคร์เวอร์ชันที่สอง ด้วยฟีเจอร์การแสดงข้อมูลด้วยภาพ และคำแนะนำส่วนบุคคล รวมถึงบริษัทยังวางแผนที่จะเปิดตัว Meta W ซึ่งเป็นเมตาเวิร์สด้านอุตสาหกรรมรายแรกที่ได้รับการออกแบบเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าสร้างโอกาสใหม่ๆ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปในยุคดิจิทัล
