บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดตัว ปลาหยก (Jade Perch) ผลิตภัณฑ์พรีเมียม รสชาติอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท และผิวพรรณ ที่เลี้ยงด้วยกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัยได้มาตรฐานสากล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดการเลี้ยงดู เพื่อส่งมอบอาหารคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย เพื่อสุขภาพที่ดีสู่ผู้บริโภคทั่วโลก
นายสัตวแพทย์ สุจินต์ ธรรมศาสตร์ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจสัตว์น้ำ ซีพีเอฟ กล่าวว่า ปลาหยกมีคุณค่าทางโภชนาการ อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย เช่น ไขมันดี มีโอเมกา 3 สูงกว่าปลาแซลมอนถึง 3 เท่า ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ และความดันสูง รวมทั้ง DHA (Docosahexaenoic Acid) ที่มีส่วนช่วยบำรุงเซลล์ประสาท สมอง และดวงตา เสริมภูมิคุ้มกันให้เด็ก ลดอาการอ่อนล้าจากการทำงาน นอกจากนี้ ยังมีคอลลาเจนที่จะช่วยทำให้ผิวพรรณดี ลดการปวดข้อต่อ และชะลอการสลายของมวลกระดูก โดยผู้ที่สนใจลิ้มลองปลาหยกชั้นเลิศจากซีพีเอฟสามารถไปรับประทานได้แล้ววันนี้ ที่ร้านอาหารและภัตตาคารชั้นนำกว่า 20 แห่ง ทั้งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น ร้าน An Com An Ca (อันเกิม-อันก๋า) ร้านข้าวต้ม ฟ้า ปลา ทาน จาก iberry ร้าน WAH LOK โรงแรมคาร์ลตัน ร้านอาหารไทยแบบไฟน์ไดนิ่ง R.HAAN ภัตตาคาร HEI YIN เกษรพลาซ่า ภัตตาคารหนานหยวน ภัตตาคารฮองมิน ภัตตาคารเชียงการีล่า รวมทั้งร้านเลชาเลต์ ร้านมาเรีย การ์เด้น ร้านมาเรีย พิซซาเรีย และร้าน JSM Pizzeria & Restaurant จ.นครปฐม
นายสัตวแพทย์ สุจินต์ยังได้อธิบายถึงขั้นตอนการเลี้ยงว่า บริษัทให้ความสำคัญต่อการพัฒนานวัตกรรมและใช้เทคโนโลยีทันสมัยในห่วงโซ่การผลิตปลาหยก ซึ่งปลาหยกเป็นปลาที่ซีพีเอฟนำร่องนำเข้าไข่ปลาจากประเทศออสเตรเลีย มาเพาะเลี้ยงที่ตำบลยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ภายในโรงเรือนระบบปิด พร้อมระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (biosecurity) ตลอดกระบวนการเลี้ยง ตั้งแต่การคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ปลอดโรค เลี้ยงในบ่อคอนกรีต ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้การอนุญาตและกำกับดูแลจากกรมประมง
นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งมั่นบริหารจัดการน้ำให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยการใช้ระบบ Ultrafiltration ที่สามารถกำจัดตะกอน เชื้อแบคทีเรีย ไปจนถึงเชื้อไวรัสที่มีขนาดเล็กมาก ขณะเดียวกัน ยังใช้เทคโนโลยีการหมุนเวียนน้ำ RAS (Recirculation aquaculture system) ซึ่งสามารถบำบัดคุณภาพน้ำ กำจัดของเสียในน้ำที่เคยใช้เลี้ยงปลา และหมุนเวียนน้ำใสคุณภาพดีกลับมาใช้ในการเลี้ยงปลาได้อีก เทคโนโลยีเหล่านี้นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคแล้ว คุณภาพน้ำที่ดียังส่งผลทำให้ปลาหยกแข็งแรง โตไว ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง นับเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
“การเลี้ยงปลาหยกด้วยระบบเลี้ยงแบบปิดของซีพีเอฟที่ดูแลความสะอาดของน้ำและบ่อเลี้ยง ทำให้ปลาแข็งแรง เลี้ยงง่าย ปลอดเชื้อก่อโรค ไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะในการเลี้ยง เราตรวจน้ำหนักและสุขภาพปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับปริมาณอาหารให้ปลาอย่างเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าปลาหยกสะอาด ปลอดภัย ไร้สารตกค้าง ปราศจากกลิ่นโคลน สุขภาพดี และมีคุณภาพทั้งรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน” นายสัตวแพทย์ สุจินต์กล่าวทิ้งท้าย