คณะทำงานค่าไฟฟ้า กกร.เตรียมบุกหารือ “กกพ.” และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง 31 ม.ค.นี้หวังหาทางออกค่าไฟฟ้าแพง หลังมีแนวโน้มค่าไฟงวดใหม่พ.ค.-ส.ค. 66 เฉลี่ยรวมจะแตะ 5.24 บาทต่อหน่วยที่ยังสูงเกินไป เฉลี่ยไม่ควรจะเกิน 5 บาทต่อหน่วย
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 31 ม.ค. คณะทำงานค่าไฟฟ้าของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย จะไปหารือร่วมกับนายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือสำนักงาน กกพ. รวมทั้งตัวแทนจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ประเด็นหาทางออกปัญหาค่าไฟประเทศไทยแพง ซึ่งจะพิจารณาเจาะลึกร่วมกันในการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ที่เหลือของปี 66
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ กกพ.ระบุถึงแนวโน้มค่า Ft งวดต่อไป (พ.ค.-ส.ค. 66) โดยเผยว่าหากสมมติฐานต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ในงวดก่อน อัตราค่าไฟฟ้าของประเทศเฉลี่ยจะอยู่ในระดับประมาณ 5.2407 บาทต่อหน่วย ซึ่งเอกชนเห็นว่าเป็นระดับที่สูงเกินไป ค่าไฟงวดใหม่ไม่ควรเกิน 5 บาทต่อหน่วย เนื่องจากปัจจัยต่างๆ ในการคำนวณค่าไฟงวดใหม่ปรับลดลงต่อเนื่อง เช่น ปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยจะเพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปรับขึ้นเป็น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนถูกลง รวมทั้งราคาก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี เหลือ 20 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู จากที่ผ่านมาราคาสูงถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู
ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้เป็นผลจากที่ผ่านมา กกร.หารือทางออกค่าไฟร่วมกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยครั้งนี้ภาคเอกชนจะหารือแบบเจาะลึกที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตค่าไฟฟ้าปรับลดลงได้จะดูปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ต้นทางค่าก๊าซฯ